รณรงค์ข้ามถนนบนทางม้าลาย ลงทุนน้อยนิด แต่น่ารักมหาศาล
“ข้ามถนนให้ปลอดภัย จงใช้ทางม้าลาย” ประโยคนี้จำขึ้นใจตั้งแต่จำความได้ แต่ทำม้ายยยย…ทำไม หลายคนถึงจำแต่ไม่ทำตาม ข้ามถนน…ไม่ยอมข้ามตรงทางม้าลาย แต่ยอมที่จะเสี่ยงชีวิต
“ข้ามถนนให้ปลอดภัย จงใช้ทางม้าลาย” ประโยคนี้จำขึ้นใจตั้งแต่จำความได้ แต่ทำม้ายยยย…ทำไม หลายคนถึงจำแต่ไม่ทำตาม ข้ามถนน…ไม่ยอมข้ามตรงทางม้าลาย แต่ยอมที่จะเสี่ยงชีวิต
ปัญหาเรื่องขยะล้นเมืองและปัญหาเรื่องการจัดการกับสุนัขจรจัดดูจะเป็นปัญหาหลักที่ไม่ว่าเมืองไหนก็ต้องเผชิญ แต่ก็ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นคนคิดแก้ปัญหาทั้ง 2 อย่างในคราวเดียวแบบที่บริษัท
ธรรมชาติใกล้ตัวล้วนเป็นต้นตอแรงบันดาลใจในการผลักดันให้มนุษย์ก้าวข้าม ‘ความเป็นไปไม่ได้’ ให้ ‘เป็นไปได้’ และนวัตกรรมความเป็นไปได้ที่ว่านี้ เกิดจากจุดเริ่มต้นของการสงสัย ตั้งคำถาม
ความล้มเหลวของการพัฒนาแบบดั้งเดิมที่ผ่านมาได้สร้างปัญหาให้กับความเป็นอยู่ของคน สังคม และทรัพยากรธรรมชาติอย่างมหาศาล ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีโอกาสได้เห็นการพัฒนาแบบยั่งยืน
แม้ว่า อักษรเบรลล์ ที่ออกแบบไว้สำหรับผู้พิการทางสายตา หรือหนังสือเสียงที่มีผู้ใจดีร่วมอ่านหนังสือสร้างแหล่งความรู้ชั้นดีแก่ผู้บกพร่องทางสายตา แต่นั่นอาจจะไม่เพียงพอต่อการเปิดกว้าง
ตั้งแต่ปี 2000 ในไอร์แลนด์เหนือ… เด็กประถมตัวน้อยๆ ต่างครอบครัว 28 คน ต้องจบชีวิตด้วยสาเหตุเดียวกัน นั่นคือ การขับรถเร็วเกินกำหนด และ 28 ชีวิตน้อยๆ ก็เท่ากับชั้นเรียนประถม
หลายคนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาบุคคลใกล้ชิดประสบภาวะอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อม จำไม่ได้แม้แต่คนที่สำคัญที่สุดหรือเรื่องราวที่ดีที่สุดในชีวิต ทั้งอาจจำไม่ได้แม้แต่ตัวเอง
ปัญหาของคนไร้บ้านขาดแคลนที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับสุขภาวะดูจะเป็นปัญหาที่แก้ยากไปเสียแล้ว เพราะรากของปัญหาดูท่าจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับมิติทางรายได้ต่อหัวของประชากรในแต่ละประเทศ
หลายครั้งที่การเรียนการสอนวิชาการออกแบบได้มองข้ามวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น เน้นแนวคิดของการผลิตในระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จนทำให้เราหลงลืมไปว่า ประเทศไทยมีจำนวนตัวเลข
‘ไม่มีเวลาปลูก’ คือคำอ้างของคนเมือง มามะ …มาปลูกต้นไม้แบบใช้เวลาอันน้อยนิดกัน ปลูกแบบไม่พรวนดิน ไม่ใช่ปุ๋ย ประหยัดสตางค์ หนึ่งก้อนปลูกเอาอยู่ทุกอย่าง ที่สำคัญ เป็นผลผลิต