ฮิญาบ หรือผ้าคลุมสำหรับปกปิดเรือนผมไปจนถึงใบหน้าของผู้หญิงมุสลิม เป็นเครื่องแต่งกายที่เต็มไปด้วยความหมาย สัญลักษณ์ และภาพจำที่คนภายนอกมีต่อฮิญาบ รวมไปถึงต่อศาสนาอิสลาม
โลกแฟชั่นกำลังเปิดกว้างสู่ความแตกต่างหลากหลาย ทั้งการต้อนรับนางแบบที่ไม่ต้องสวยแบบพิมพ์นิยมให้เข้ามาเฉิดฉายบนรันเวย์ เป็นการยอมรับความงามตามธรรมชาติที่มีมากกว่าผิวขาว ผอมบาง ผมบลอนด์ นอกจากด้านกายภาพแล้ว ศาสนาและความเชื่อก็ควรมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันในโลกแฟชั่นเช่นกัน หลังจากที่กระแสของฮิญาบแฟชั่นซึ่งเกิดขึ้นมาจากกลุ่มของสาวมุสลิมเองได้บูมขึ้นแล้ว แบรนด์ไฮเอนด์หลายแบรนด์ เช่น Chanel รีสอร์ทคอลเล็กชั่น 2015 ได้นำแนวคิดของเครื่องแต่งกายแนวอาหรับและมุสลิมเข้ามาออกแบบ มาถึงแบรนด์สตรีทแฟชั่นระดับโลก หลายแบรนด์เริ่มหันมาเปิดตลาดนี้บ้าง ในปีนี้ Uniqlo ได้ออกไลน์แฟชั่นของสาวมุสลิมออกวางขายในบางประเทศ ด้าน Mango และ DKNY ก็ออกคอลเล็กชั่นสำหรับใส่ในช่วงเดือนถือศีลอด ฯลฯ และล่าสุด H&M ได้เลือกใช้นางแบบมุสลิมคนแรกมาปรากฏในวิดีโอโปรโมทแคมเปญที่เนื้อหาว่าด้วยความหลากหลายและเสรีภาพในการแต่งกาย (แต่หักมุมจบด้วยเรื่อง Recycle) มาเรียห์ อิดริสซิ (Mariah Idrissi) นางแบบมุสลิมชาวอังกฤษ ลูกครึ่งปากีสถาน – มาดัสกัส วัย 23 ปี ปรากฏตัวเพียง 2 วินาทีในวิดีโอ แต่กลับเป็นที่กล่าวขานขนานใหญ่ ด้วยโพสต์ของเธอนั้นเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ เหมือนที่เธอยืนยันมาตลอดว่าจะเป็นนางแบบที่สวมฮิญาบเท่านั้น ความสวยเก๋และยังคงเปี่ยมด้วยศรัทธา กลายเป็นแรงบันดาลใจของหญิงสาวชาวมุสลิมอีกมากมาย
จริงอยู่ว่าการเลือกหันมาจับกลุ่มสาวมุสลิมนั้นมีเหตุผลทางการตลาดรองรับอยู่ เพราะตัวเลขของชาวมุสลิมที่มีกำลังจับจ่ายนั้นเป็นตลาดใหญ่ระดับทวีปที่ไม่อาจมองข้าม แต่การหยิบยกประเด็นเรื่องเสรีภาพในการนับถือศาสนามาหลอมรวมกับแฟชั่น ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่สังคมวงกว้างได้ ชั่ววินาทีสั้นๆ ที่มาเรียห์ปรากฏกายในสื่อไวรัล ดูเหมือนจะช่วยตอกย้ำความเท่าเทียมกันในด้านศาสนา ไม่เพียงแต่ในโลกของแฟชั่น แต่ยังหมายถึงการยอมรับนับถือระหว่างกันอย่างไม่เดียดฉันท์ในโลกแห่งการใช้ชีวิตอีกด้วย
[youtube url=”http://www.youtube.com/watch?v=s4xnyr2mCuI” width=”600″ height=”350″]
