เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นวัน World Cancer Day ซึ่งเป็นวันสากลประจำปีที่ตั้งใจให้คนทั่วโลกหรือองค์กรใดๆ ก็ตามหันมาใส่ใจและสนับสนุนการต่อสู้โรคมะเร็ง แน่นอนว่าการสนับสนุนเรื่องโรคมะเร็งนี้ใครจะทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเผยแพร่ข่าวสาร รณรงค์หรือจะบริจาค ยิ่งในยุคโซเชียลมีเดียนี้ใครจะทำอะไรก็สามารถใส่แฮชแทค #WorldCancerDay เพื่อบอกต่อคนอื่นก็ได้
ถ้าใครยังจำเรื่องราวของ Ice Bucket Challenge ได้เรื่องราวต่อไปนี้ก็มีลักษณะที่คล้ายกัน คือใช้โซเชียลมีเดียเป็นตัวกระตุ้นเพื่อบอกต่อหรือจะบริจาค เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ ALS (โรคเดียวกับ Stephen Hawking แบบในหนัง Theory of Everything) แต่เป็นเรื่องของโรคมะเร็ง ซึ่งการจะสนับสนุนเรื่องโรคมะเร็งนี้ไม่มีการสร้างอัตลักษณ์ใดในโลกออนไลน์ได้ดีไปกว่าการโกนหัวจริงๆ แล้วโพสต์บอกคนอื่นบนออนไลน์ เป็นการแสดงถึงการเป็นหัวอกเดียวกันกับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มักจะถูกรักษาโดยการทำคีโม ซึ่งท้ายที่สุดจะทำให้เส้นผมหลุดร่วงลงจนเหมือนคนศีรษะล้าน
โต้โผความคิดนี้คือ The Princess Margaret Cancer Foundation ที่ทำให้แคมเปญ #NoHairSelfie ออกมาอย่างเป็นกิจลักษณะ ที่ชวนทุกคนออกมาโกนหัวในวัน World Cancer Day เพื่อทั้งบอกต่อทางอ้อมหรือจะร่วมบริจาคด้วยก็ได้ ใครอยากเข้าภารกิจเพียงแค่เข้าเว็บไซต์ของแคมเปญ #NoHairSelfie ก็จะเห็นวิธีการร่วมรณรงค์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนใครที่ไม่อยากฮารด์คอร์โกนหัวจริงๆ แต่อยากสนับสนุนก็ยังมีแอพฯ มือถือ NoHairSelfie ให้ดาวน์โหลด ให้เราถ่ายรูป Selfie ตัวเราให้เหมือนโกนหัวจริงๆ ได้ เรียกได้ว่าสนับสนุนครึ่งเดียวก็ยังดี
เสียดายที่แอพฯ นี้ยังไม่อนุญาตให้ดาวน์โหลดในประเทศไทย จึงไม่มีตัวอย่างจริงๆ มาให้ชมกัน ส่วนแคมเปญนี้ที่เมืองนอกในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ก็ประสบความสำเร็จได้ระดับหนึ่ง ได้รับเงินบริจาคถึง 2 ล้านเหรียญ ตัว hashtag เองก็ติดอันดับเทรนด์ประจำวัน แต่หากจะให้วิเคราะห์เทียบกับ Ice Bucket Challenge คงจะเทียบด้วยกันยาก เนื่องจากแคมเปญนี้มีข้อจำกัดด้านเวลา และการโกนหัวเป็นการลงทุนขั้นสูงจึงยากที่จะมีเหล่าเซเลบตัวพ่อตัวแม่มาร่วมเล่นให้เกิดกระแสบอกต่อแบบวงกว้าง แถมการโกนหัวก็ไม่ค่อยเปิดช่องให้เล่นเชิงครีเอทีฟสร้างสรรค์เท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้คอยดู 4 กุมภาพันธ์ในปีหน้า ไม่แน่เราอาจจะเห็นไอเดียใหม่ๆ เจ๋งๆ ที่พร้อมให้คนทั่วโลกมาร่วมสนับสนุนเกี่ยวกับโรคมะเร็งด้วยก็ได้
อ้างอิง: NoHairSelfie, osocio , Twitter
