ตัดก่อนตาย! แอพฯ โดนๆ สำหรับคนชอบใช้มือถือขณะขับรถ

ยุคสมัยนี้เป็นยุคของ Multi-tasking หมายถึง การที่คนเราชอบทำอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กัน อาจเป็นเพราะการมาถึงของสมาร์ทโฟนที่ทำให้เราไม่เคยทำตัวให้ว่าง หลายคนคงเคยเห็นหรือเคยเป็นอะไรแบบนี้บ้าง เราเดินทางบนรถไฟฟ้าพร้อมๆ กับเล่นเกมบนมือถือ เราดูทีวีพร้อมกับโหลตวิดีโอบนยูทูปมาชม เรานั่งทานข้าวกับครอบครัวพร้อมกับอัพเดตสเตตัสบอกเพื่อน อันที่จริงแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนอกจากจะทำให้เราแค่เสียสมาธิ เพราะการทำอะไรหลายอย่างพร้อมๆ กันทำให้เราไม่สามารถใช้สมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีพอ แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่ Multi-tasking เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ หนึ่งในนั้นก็คือ การขับรถพร้อมๆ กับแชตบนมือถือไปด้วย

เมื่อตัวเราอยู่หลังพวงมาลัย หน้าที่ของเราควรมีอยู่อย่างเดียว คือจดจ่อและใช้สมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า นั่นก็คือขับรถด้วยความปลอดภัย มีข้อมูลที่น่าสนใจจากการเปิดเผยของค่ายมือถือซัมซุงในสิงคโปร์ว่า การที่เราโทรศัพท์ขณะขับรถนั้นจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้น 2.8 เท่า แต่นั่นยังไม่เท่าไหร่ ถ้าเราพิมพ์หรือแชตขณะนั้นที่รถวิ่งอยู่นั้น ความเสี่ยงจะกระโดดขึ้นไปเป็น 23 เท่า เลยทีเดียว

ซัมซุงได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการขับรถของคนสิงคโปร์พบว่า คนส่วนใหญ่ตระหนักว่าการใช้มือถือขณะขับรถเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ยอมรับว่าพวกเขาก็ยังใช้มือถือขณะขับรถอยู่ดี โดยคิดว่าไม่เห็นเป็นไรและคงไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าถามกลับกันว่า ถ้าตัวเองเป็นผู้โดยสารแล้วเห็นคนขับรถใช้มือถือขณะขับรถจะรู้สึกอย่างไร ผลปรากฏว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย และ 3 ใน 4 ของผู้ตอบคำถามจะบอกให้คนขับรถหยุดใช้มือถือ เป็นอย่างนั้นไป

ดังนั้นแล้วใจความสำคัญคือ การอดใจไม่ใช้มือถือขณะขับรถเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะเมื่อไหร่ที่เสียงจากมือถือดังขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นจากสายเรียกเข้า จาก SMS หรือ จาก Notification ของบรรดาโซเชียลมีเดียที่เราใช้อยู่ ก็มักจะทำให้เราต้องหยิบมือถือขึ้นมาใช้งานหรือโต้ตอบโดยทันที ทางซัมซุงเห็นเช่นนั้นจึงได้ออกแอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ชื่อ Eyes on the Road ให้คนขับรถในสิงคโปร์ได้โหลดมาใช้กัน แอพฯ ตัวนี้จะทำให้เรามีสมาธิในการขับรถมากขึ้น ด้วยคอนเซ็ปต์ง่ายๆ คือ ถ้าเสียงทำให้เราเสียสมาธิในการขับรถ ก็ปิดเสียงมันซะเลย

วิธีใช้ก็ง่ายๆ เมื่อเราขึ้นรถก็เปิดแอพฯ ตัวนี้แล้วเข้าไปที่ Drive Safe mode จากนั้นก็แค่ขับรถออกไป เทคโนโลยี GPS และ Sensor Fusion ร่วมกับเสาสัญญาณเครือข่าย จะทำการวัดว่ารถวิ่งเกิน 20 กม./ชม. หรือไม่ ถ้าเกิน แอพฯ ตัวนี้จะเข้าไปสั่งการทำงานของมือถือ โดยเข้าไปบล็อคการทำงานของมือถือที่ใช้โทรและ SMS แล้วก็ไปปิดเสียง Notification ของโซเชียลมีเดียจนกว่าจะถึงที่หมาย หรือหากรถอยู่นิ่งนานเกินสิบนาทีก็จะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ถ้าใครคิดว่าไม่สามารถแข็งใจใช้มือถือระหว่างขับรถได้ แอพฯ นี้ถือว่ามีประโยชน์ทีเดียว เพราะแก้ปัญหาได้ตรงจุด นอกจากนั้นทางซัมซุงได้ร่วมมือกับบริษัทน้ำมันและประกันภัยรถยนต์ สร้างแรงจูงใจให้คนที่โหลดแอพฯ นี้มาใช้งานสามารถที่จะลุ้นรับโปรโมชั่นส่วนลดการซื้อประกันภัยหรือบัตร voucher น้ำมัน เรียกว่ายิ่งใช้มากยิ่งได้สิทธิประโยชน์มาก เท่านี้ก็สามารถให้คนขับรถลองโหลดมาใช้จนติดใจกับการขับรถให้ปลอดภัยได้แล้ว

จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของคนขับรถเองว่าอยากจะใช้ต่อหรือไม่ เทคโนโลยีต่อให้ดีอย่างไรก็ยังคงเป็นแค่เทคโนโลยี การตระหนักเรื่องความปลอดภัยของคนขับรถเองต่างหากที่จะช่วยให้สังคมนั้นดีขึ้น เทคโนโลยีแค้ทำให้สะดวก แต่สำนึกจะทำให้ปลอดภัย

 

[youtube url=”http://youtu.be/auTFJGCrJJU” width=”600″ height=”350″]

 

 

อ้างอิง : Samsung