ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญทำเก๋ สร้างชุมชนห่วงใยสิ่งแวดล้อม

เชื่อไหมว่าเราสามารถสร้างชุมชนคนห่วงใยสิ่งแวดล้อมจากเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญได้ด้วย! เชื่อเถอะ เพราะมีคนทำจริงแล้ว และทำได้ดีมีรางวัลตีตราหลายสถาบันเลยล่ะ The Eco Laundry Room ร้านให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่ไม่เพียงตั้งตู้แล้วรอไขตังค์เท่านั้น แต่หุ้นส่วน 3 คน คือ Natasha Bick-Kelso, Brant Kelso และ Paul Bichler คิดไปไกลกว่า ไม่ใช่แค่แตกต่าง แต่สร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ตั้งแต่เครื่องซักผ้าฝาหน้าคุณภาพสูงที่ใช้น้ำน้อยกว่าปกติ 43% เครื่องอบผ้าที่ใช้แก๊สน้อยกว่าครึ่ง บนหลังคาร้านติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ต้นกำเนิดพลังงานมาต้มน้ำร้อน วัสดุทำโต๊ะ เก้าอี้ พื้นหรือผนังก็มาจากวัสดุรีไซเคิล ส่วนผงซักฟอกที่มีขายก็เป็นสูตรพิเศษ ไม่มีพิษภัยกับร่างกาย ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติอีกด้วย

The Eco Laundry Room ไม่ใช่ร้านที่ตกแต่งภายในกิ๊บเก๋ แต่ด้วยหน้าตาธรรมดาๆ นี้เจ้าของร้านมีปรัชญาการบริหารร้านอยู่ 2 ข้อ คือ ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกดี และต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกดี ฉะนั้น ที่นี่จึงเอาใจใส่ปัจจัยรายรอบ เอื้อให้คนที่มาซักผ้ารู้สึกสะดวกสบาย เช่น บาร์กาแฟ (ขายกาแฟแฟร์เทรด) มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งรอ มุมเด็กเล่น ทีวี ห้องสมุดขนาดเล็กที่ให้คนหยิบยืมหรือเอาหนังสือมาแบ่งกันอ่านได้ ส่วนโซนเครื่องซักผ้า มีทางเดินกว้างขวางพอให้ผู้พิการนั่งรถเข็นเข้ามาใช้งานได้ และจัดวางโต๊ะสำหรับพับผ้าเก็บกลับบ้านได้อีก ฯลฯ รายละเอียดเหล่านี้ ทำให้คนมาซักผ้ามีความสุข และกลับมาใช้บริการอีกเรื่อยๆ

แต่คุณอาจจะยังสงสัยว่าแล้วทำไมพวกเขาไม่ซักผ้ากันเองที่บ้านเลยล่ะ? ก็เพราะจุดเด่นที่เครื่องซักคุณภาพเยี่ยมนี่แหละ มันบิ๊กเบิ้มและทนทานถึงขนาดซักชุดเล่นฮอกกี้อันหนาหนักได้เลยนะ บวกกับค่าซักที่ไม่แพง ทำให้บรรดาคุณแม่บ้านที่ต้องรับมือกับผ้ากองมหึมาต้องเทใจให้แบบยอมเดินมาไกลกว่า แม้จะมีร้านอื่นใกล้บ้านก็ตาม แต่เหนือสิ่งอื่นใด คนที่นี่เขาตอบรับเรื่องสิ่งแวดล้อมกว่าเราหลายเท่า ชาวเมืองที่เป็นลูกค้าประจำของ The Eco Laundry Room บอกว่าแนวคิดการประหยัดพลังงาน เป็นเหตุผลหลักที่มาใช้บริการที่นี่ “เราจะทำอะไร ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ต้องคิดเสมอว่าเราจะเหลืออะไรไว้ให้คนรุ่นลูกของเราบ้าง”

นอกจากนั้น ที่นี่อาจเป็นร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแห่งเดียวที่จัดเดี่ยวไมโครโฟนทุกเดือน โดยดาวตลกที่ชอบปล่อยมุกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมด้วยนะ แถมยังสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน อย่างดีไซเนอร์หน้าใหม่ หรือเจ้าของกิจการแฟร์เทรดมาขายสินค้าของตัวเองได้อีก

ด้วยวิธีคิดต่าง และใส่ใจรายละเอียด The Eco Laundry Room จึงโดดเด่นทั้งความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างชุมชนจนกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ของเมืองไปเลย พอเริ่มลงตัวกับ 2 สาขา ในโตรอนโตและออนตาริโอแล้ว เขาก็เปิดแฟรนไชส์ด้วย ถ้าอยากมีแบบนี้มั่ง เราคงไม่ต้องลงทุนไปถึงโน่น เพราะเชื่อว่าหลายคนคงมีไอเดียประมาณนี้อยู่แล้ว The Eco Laundry Room เป็นตัวอย่างที่ดีทางความคิดที่มากกว่าการค้า ใช้ความสร้างสรรค์ที่เรียบง่ายแต่ตอบโจทย์ คุณก็ทำได้ เหลือแค่ลงมือเท่านั้นแหละ

อ้างอิง: The Eco Laundry Room