‘เส้นพรมแดน’ ในความหมายทั่วไปคือเส้นที่กำหนดไว้เพื่อแบ่งแยกชาติสองชาติออกจากกัน ซึ่งหลายๆครั้ง เมืองบางเมืองที่ดันโชคร้ายมีเส้นพรมแดนผ่ากลางเมืองก็กลายเป็นเมือง 2 ชาติซะงั้น และตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเมือง Naco ในอัฐแอริโซนา สหรัฐฯ และเมือง Naco ในเม็กซิโกที่ก่อนยุคทศวรรษที่ 1960s เคยเป็นเมืองเดียวกันมาก่อน
แม้ว่าพรมแดนระหว่างอเมริกา-เม็กซิโกจะได้ชื่อว่าเป็นพรมแดนที่โหดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะในแต่ละปีมีคนต้องเสียชีวิตจากการข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายมากมาย แต่อยู่ดีๆ จะให้ชาวบ้านที่เคยอยู่เมืองเดียวเป็นชาวเมืองเดียวกันมาก่อนแบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย – มันใช่ที่ไหน! พลเมืองของเมือง Naco ของทั้งสองประเทศนี้จึงตกลงกันว่าเส้นพรมแดนนี้จะไม่มีวันทำลายสปิริตของการเป็นชาวเมือง Naco ที่มีอยู่ร่วมกันได้แน่นอน อยากจะแบ่งใช่มั้ย? ก็ใช้เส้นแบ่งนี้เป็นเน็ตสำหรับกีฬาวอลเลย์บอล (volleybal) lซะเลย!
ในปีค.ศ. 1979 การแข่งขัน ‘Wallyball’ ครั้งแรกจึงถือกำเนิดขึ้น โดยมีเส้นพรมแดนที่อยู่ในรูปของลูกกรงเหล็กเป็นเน็ตสำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลกระชับมิตรระหว่างชาวเมือง Naco ทั้งสองฝั่ง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างชาติสองชาติก็คืออเมริกาและเม็กซิโกด้วย ..และด้วยความสนุกสนานบวกบรรยากาศอันเป็นมิตรที่ทลายความตึงเครียดที่มักจะเกิดขึ้นบริเวณพรมแดนให้หมดไป การแข่งขันนี้จึงกลายมาเป็นกีฬาประเพณีที่เล่นกันในเดือนเมษายนของทุกปี ถึงแม้จะเปลี่ยนข้างไม่ได้ แต่อย่างน้อยทั้งสองทีมก็ได้เป็นทีมเหย้าล่ะนะ!
และที่สำคัญกว่านั้นคือ Wallyball นี้ได้กลายเป็นโครงการต้นแบบให้อีกหลายๆ เมืองเอาไปปรับใช้กับกีฬาอื่นๆ บ้าง (วอลเลย์บอลชายหาดหรือฟุตบอลก็มี) ก็บ้านพี่เมืองน้องนี่เนอะ รักกันคงจะดีกว่า จริงมั้ย?
อ้างอิง: The Independent
ภาพ: Reuters
