เตือนเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง! Text แล้วขับ อาจกลับบ้านเก่าได้ทุกเมื่อ

คนเรานี่ก็แปลก ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ต่อให้มีกี่ร้อยแคมเปญที่ร้องขอแกมตักเตือนให้เลิกพฤติกรรมใช้มือถือขณะขับรถ ก็ยังไม่ค่อยมีใครจะรับฟัง อุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการใช้มือถือขณะขับรถก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนำซ้ำทุกวันนี้ คนเราใช้มือถือเป็นเครื่องพิมพ์ดีด! ทั้ง SMS, Chat, Line ไม่ก็ Tweet  เรียกว่าต้องโซเชียลกันตลอดเวลา ไม่เว้นแม้เวลาขับรถ สายตาแทนที่จะได้จดจ่อต่อเส้นทางข้างหน้า กลับต้องจดจ้องหน้าจอมือถือเพื่อที่จะได้พิมพ์ข้อความ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าไม่ใช่อุบัติเหตุ!

‘Blake’ องค์กรพิทักษ์ความปลอดภัยบนท้องถนนของประเทศอังกฤษ  วิจัยพบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ที่เป็นวัยรุ่นจำนวนกว่าครึ่งประเทศมีพฤติกรรม พิมพ์ข้อความหรือ text  ไม่ว่าจะ SMS, Email, Tweet, Facebook หรือท่องเว็บขณะขับรถ สถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากพฤติกรรมดังกล่าว ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนผู้ใช้มือถือ เห็นทีต้องเตือนให้หนัก! จึงต้องออกแคมเปญรณรงค์ให้คนละเลิกการเสพติดมือถือขระขับรถ โดยใช้ลักษณะของอักษรข้อความและสัญลักษณ์ที่เราใช้ text กันประจำ ซึ่งตัวอักษรเพียงไม่กี่อักษรที่พิมพ์ ก็อาจหมายถึงชีวิต และความตายนี่แหล่ะคือโทษสูงสุดของพฤติกรรมดังกล่าว โดยหวังที่จะให้แคมเปญนี้ช่วยเตือนสติผู้ขับขี่ว่า มันคุ้มกันหรือเปล่ากับข้อความไม่กี่ตัวอักษรกับชีวิตทั้งชีวิตที่ต้องสูญเสีย และอาจไม่ใช่แค่ชีวิตของผู้ขับเอง แต่รวมถึงผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกันอีกด้วย

คนไทยเองก็ไม่น้อยที่มีพฤติกรรมติดมือถืองอมแงม ไม่แชทไม่ได้ เห็นข้อความมาแล้วไม่ reply เหมือนจะครั่นเนื้อครั่นตัว ต้องเช็คมือถือทุกนาที ขอแนะนำว่า เมื่อคุณต้องขับรถ คุณต้อง ‘หักดิบ’ ปิดมือถือเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย ถึงที่หมายแล้วค่อย text  ช้าไปหน่อยแต่คนในมือถือเค้าคงรอได้ ดีกว่าให้เค้าได้รับข้อความ… แต่เป็นข้อความสุดท้ายของคุณ

อ้างอิง : Huffpost Living