1 ใน 3 ของคนไทยมีภาวะ ‘อ้วนลงพุง’ เพราะผลพวงของวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่มีพฤติกรรมการกินที่ทำร้ายสุขภาพ และขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโภชนาการ หนำซ้ำยังขาดการออกกำลังกาย ถือเป็นมหันตภัยเงียบที่ทำร้ายสุขภาพของคนไทยอย่างร้ายแรง
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้รณรงค์ผ่านแคมเปญ ‘ลดพุง ลดโรค’ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องด้านโภชนาการ และกระตุ้นให้คนไทยไม่ว่าจะลงพุงน้อยหรือลงพุงใหญ่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ผ่านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ ความยาว 90 วินาที ใช้วิธีการสื่อสารแนวตลกขบขันแบบจักรๆ วงศ์ๆ ที่คนไทยคุ้นเคย โดยหยิบเอาเรื่องราวของแม่ยักษ์และลูกยักษ์ กับมนุษย์ลงพุงที่กำลังจะกลายเป็นอาหารอันโอชะของลูกยักษ์ และแม้จะเป็นยักษ์แต่ก็ยังรู้จักเลือกกิน แม่ยักษ์จึงบอกลูกอดใจ เลี้ยงมนุษย์ให้พุงลดก่อนค่อยกิน เพราะไขมันที่พอกพูนในตัวมนุษย์เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคต่างๆนานา อาทิ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด แม่ยักษ์จึงเริ่มปฏิบัติการลดพุงมนุษย์ ขั้นตอนแรกคือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ลดอาหารทอด อาหารมัน เพิ่มการกินผักผลไม้ อาหารนึ่งและต้ม ขั้นตอนสุดท้ายคือ เพิ่มกิจกรรมทางกาย ซึ่งแม่ยักษ์แนะนำว่าหากมีพื้นที่ไม่มาก ให้เลือกการแกว่งแขนซึ่งเป็นวิธีใหม่ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เคยรู้ แต่หากมีพื้นที่มากควรเลือกการเดินเร็ว อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยลดพุง ลดโรคได้ และในที่สุด เมื่อมนุษย์ลดพุงได้สำเร็จและมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้ว ก็เอาตัวรอด! ลอดออกมาจากกรงขังโดยไม่ติดพุง และวิ่งหนีไปได้แบบสบาย สุดท้าย…ลูกยักษ์กับแม่ยักษ์ ก็อดกิน!!
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ‘ไม่มีพุง ชีวิตก็รอด….ปลอดภัย’ ดังนั้น ลดพุง ลดโรค กันดีกว่า เอาล่ะ …อ่านจบแล้วก็รีบไปเอาสายวัดมาวัดพุง โดยเส้นรอบพุงต้องไม่เกินส่วนสูงหารสอง หากเกินนั่นหมายถึง คุณเข้าข่าย ‘ภาวะอ้วนลงพุง’ ต้อง’ปรับพฤติกรรมการกิน ลดทอดลดมันเพิ่มผักผลไม้ และเพิ่มกิจกรรมทางกาย ให้ไวๆ ก่อนที่โรคต่างๆ จะถามหา!
[youtube url=”http://www.youtube.com/watch?v=-zWp1u1jOak” width=”600″ height=”350″]