การกระทำทารุณต่อเด็กและสตรียังคงเป็นปัญหาสิทธิมนุษยชนอันดับต้นๆ ของโลก ในหลายประเทศเด็กผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียนหนังสือ ถูกบังคับให้แต่งงาน ถูกข่มขืน ทุบตี บังคับให้ค้าประเวณี หรือกระทำผิดกฎหมายและไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ที่แย่กว่านั้นคือพวกเธอกลับเลือกที่จะเงียบ! ซึ่งต่อให้พวกเธอเจ็บปวดทรมานแค่ไหน ก็ยังคงเป็นเสียงที่ไม่ได้ยิน
ในคืนวันเด็กสากล ชาวเมืองซูริคและเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พากันออกมารวมตัวนับพันคน จับมือเรียงแถวยาวนับร้อยเมตร พร้อมใส่หน้ากากที่สกรีนรูปมือปิดปาก ซึ่งเป็น key visual หลักของแคมเปญ ‘Stop violence against girls – give girls a voice!’ ต่อต้านการทารุณเด็กและผู้หญิงของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ (Unicef ) แห่งประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยเป้าหมายของแคมเปญนี้คือ การทลายกำแพงความเงียบที่ครอบงำเด็กและผู้หญิงที่ถูกทารุณกรรม โดยใช้พลังมวลชนร่วมกันเป็นกระบอกเสียงแทนเด็กและผู้หญิงเหล่านั้น ว่าการทารุณกรรมดังกล่าวควรจะหมดไปจากโลกได้แล้ว และร่วมกันทวงสิทธิมนุษยชนที่พวกเธอสมควรที่จะได้ด้วยการระดมทุนสนับสนุนการศึกษา การช่วยเหลือฉุกเฉิน การช่วยเหลือทางการแพทย์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ให้แก่เด็กและผู้หญิงเหล่านี้ ซึ่งแคมเปญนี้มีทั้งกิจกรรมการรวมตัวกันในสองเมืองใหญ่ของสวิสเซอร์แลนด์ สปอตโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ที่ใช้ภาพเด็กและผู้หญิงจากหลายชนชาติทั่วโลกที่ประสบปัญหาถูกทารุณกรรม ถูกปิดปากแต่ยังมีปากเรียกร้องสิทธิ์อยู่บนมือนั้น ซึ่งหมายถึง ปากเสียงของประชาชนที่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ของความเป็นมนุษย์แทนพวกเธอ
ในขณะที่เราใช้ชีวิตอย่างปกติสุข หลายๆ มุมของโลกรวมถึงในประเทศไทยเอง ยังมีเด็กและผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ทรมานจากการทารุณกรรม เสียงร้องของพวกเขาอาจไม่ดังพอที่จะเสียดหู แต่มันเสียดใจ ร่วมกันต่อต้านและบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ Unicef หรือหากพบเห็นเด็กและผู้หญิงถูกทารุณ อย่านิ่งดูดาย รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง… เพราะเสียงเล็กๆ ของคุณสามารถช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานได้
อ้างอิง : Unicef