เหล่านักเขียนชอบอ้างว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง แต่ไม่มีใครคิดหรอกว่าจะมีการรวบรวมเรื่องราวจริงๆ จากผู้คนบนท้องถนนมาจัดเป็นรูปแบบการแสดงได้ โปรเจ็กต์ 8 Million Protagonists คือสิ่งที่ยืนยันว่ามันเกิดขึ้นแล้ว Leo Burnett ร่วมกับ Village Voice ได้จัดการแสดงชุดนี้ขึ้นที่โรงละคร Off-Broadway New York ซึ่งไม่ได้เป็นแค่รูปแบบการแสดงในโรงละครทางเลือกเท่านั้น แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เกือบทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และชื่นชมมัน
Leo Burnett เริ่มต้นจากสร้างเว็บไซด์ที่ชื่อ New York Writes Itself.com ที่ต้องการเปิดโอกาสให้ชาวนิวยอร์กเล่าเรื่องราวในชีวิต ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อเมืองที่เขาอยู่ จัดการโหวตโดยผู้ใช้เว็บไซด์และคัดเรื่องที่น่าสนใจ แล้วนำไปแปลงเป็นบทละครรูปแบบใหม่ให้แพร่กระจายไปในวงกว้าง บทละครที่ครั้งหนึ่งถูกผูกขาดโดยนักเขียนที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้อำนวยการสร้างหรือผู้กำกับฯ ผันมาสู่มือของทุกคนในเมืองที่พร้อมจะเล่าและพูดความรู้สึกจริงๆ ของเขา และสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ต้องแปลกใจหากมันจะสร้างความตื่นตัวให้กับผู้คน ใครๆ ก็อยากเห็นเรื่องราวของตัวเองไปโลดแล่นบนเวที จริงมั้ย?
ครั้งหนึ่งที่ Samuel Beckett ทำลายโครงสร้างการเล่าเรื่องด้วยละคร แอ็บเสิร์ต การแสดงครั้งนี้ทำลายรูปแบบและกระบวนการสร้างเรื่องยิ่งกว่า และในขณะที่ Waiting for Godot ละครแอ็บเสิร์ตเรื่องแรกจัดการแสดงขึ้น ผู้ชมต่างพากันเดินออกจากโรงไปครึ่งหนึ่ง แต่กับ 8 Million Protagonists บัตรขายหมดเกลี้ยงในรอบปฐมทัศน์
ตัวอย่างของการแสดงในรอบแรกนั้นประกอบด้วย นักแสดงหนุ่มสาวหน่วยก้านดีกว่า 20 ชีวิต ออกแบบท่าเต้นโดย Jimmy Burgio และกำกับการแสดงโดย Stephen Bishop Seely และบทเพลงของ Sofie Samchick ที่ผสมเสียงแทร็กของเหล่านกกว่า 4 พันตัว บวกกับเรื่องเล่าหลากหลายของชาวเมืองนิวยอร์ก ลองนึกภาพดูว่ามันจะน่าสนใจแค่ไหน
ถึงอย่างนั้นก็ตาม เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อาจเป็นดราม่าที่ซ้อนดราม่า เพราะก่อนที่การแสดงจะเริ่มต้นหนึ่งสัปดาห์ พายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ก็พัดเข้าถล่มนิวยอร์ก สร้างความเศร้าสลดหดหู่ใจให้กับชาวเมืองอย่างมาก 8 Million Protagonists นี้จึงเป็นสัญลักษณ์ที่รวมจิตใจของทุกคน ร่วมกันกอบกู้ความสูญเสียนั้น เพื่อจะได้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง นับเป็นการแสดงที่สะท้อนความรักที่พวกเขามีต่อนิวยอร์ก โดยทาง Leo Burnett NY ผู้จัดประกาศจะนำรายได้จากการแสดงบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพายุแซนดี้ด้วย
แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ สำหรับปรากฏการณ์ของเป็นโปรเจ็กต์นี้อยู่ตรงที่มันสามารถดึงผู้คนเกือบทุกส่วนในสังคมนั้นให้มาร่วมมือกันขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ให้กับเมืองเกิดที่ตัวรัก นึกแล้วก็อดฝันเห็นโปรเจ็กต์หนังสั้นจากชุมชนคนกรุงเทพฯ ไม่ได้ เผื่อจะมีเรื่องเล่าชีวิตของผู้คนบนท้องถนนแบบที่ทุกคนจะได้เป็นเจ้าของร่วมกันกับเขาบ้าง
[youtube url=”http://www.youtube.com/watch?v=qqgpW1oOybg&feature=player_detailpage” width=”600″ height=”340″]
อ้างอิง: Fast Company, New York Writes Itself
