ไปงานสัปดาห์หนังสือกันเถอะ ไปช้อปหนังสือน่าอ่านกัน แล้วเชื่อเปล่าหลายคนเปิดอ่านมันสักสองสามครั้งยังไม่จบดีก็วางมันกองอยู่ที่ชั้นวางนั่นแหละเป็นเดือน เป็นปี ข้ออ้างที่เราบอกตัวเองก็คือ เพราะวันๆ ต้องทำอะไรเยอะแยะ จนไม่มีเวลาสนใจจะแตะต้องหนังสืออีก หรือบางคนก็คิดว่าการอ่านหนังสือต้องการโลเกชั่นที่เหมาะๆ มีสมาธิ เงียบสงบ ซึ่งอาจเป็นการสร้างเงื่อนไขสำหรับการอ่านให้ยุ่งยาก
มาดูงานนี้กันเลยดีกว่า อาจดูเว่อร์แต่ได้ใจจริงๆ เพราะเขากำลังบอกเราว่า ถ้าอยากอ่านหนังสือเราก็อ่านได้เลย ทุกที่ ทุกเวลา เขาไม่ได้พูดเล่นแต่ทำจริง โปรเจ็กต์ ‘Book’s Calling’ ของ Jakub Pavlovsky กำลังเชื้อชวนคนให้อ่านหนังสือกระตุ้นคนที่หลงลืมการอ่านให้กลับมาจับหนังสือมองตัวหนังสือผ่านกระดาษกันอีกครั้ง ปัจจุบันสังคมตื่นตัวไปกับเทคโนโลยี คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเราเห่อกับการมองตัวหนังสือผ่านหน้าจอมือถือ หน้าจอคอมพ์มากขึ้น ถึงจะอ่านมากขึ้นแต่เป็นการอ่านแค่ข้อความสั้นๆ บนหัวข้อข่าว หรือคำพูดประกอบภาพที่ห่างไกลจากงานวรรณกรรมดีๆ ที่สร้างสรรค์จินตนากร ความคิด
“การอ่านหนังสือดีๆ นั้นก็คือการได้สนทนากับจิตใจอันประณีตแห่งศตวรรษ” – เรอเน เดการ์ต
“ผมว่ามันไม่มีวันพอเลยสำหรับหนังสือ(ดีๆ)” – จอห์น สไตน์เบค
“หนังสือเป็นหน้าต่างของจิตวิญญาณ” เวอร์จิเนีย วูล์ฟ
“ถ้าคุณไม่อ่านคุณก็ไม่มีทางเจอหนังสือที่ใช่สำหรับคุณ” เจ เค โรว์ริ่ง ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้เป็นความจริงที่เหล่านักคิดนักเขียนได้พบเจอ ทว่ากำลังจืดจางไปจากสังคมอย่างน่าเสียดาย
Jakub Pavlovsky เด็กหนุ่มวัย 22 ชาวเช็ก รู้สึกว่าคนในประเทศเริ่มอ่านหนังสือน้อยลงจึงเข้าร่วมโปรเจ็กต์รณรงค์ให้คนที่นั่นหันมาการอ่านมากขึ้น โดยส่งภาพการอ่านของเขากับสถานที่ต่างๆ ที่ไม่มีใครคิดว่ามันจะอ่านหนังสือได้ลงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งเขาทำให้เห็นจริงๆ ว่าการอ่านนั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่จริงๆ นี่อาจเป็นภาพสะท้อนการอ่านหนังสือที่ลดน้อยลงของคนรุ่นใหม่ และถึงเวลาต้องกระตุ้นเตือนกันแล้ว และสำหรับประเทศที่ไม่ค่อยจะอ่านแบบบ้านเรายิ่งน่าหากิจกรรมอื่นๆ มากระตุ้นให้มากขึ้นอย่างยิ่ง
อ้างอิง: Book’s Calling, Bustle, BoredPanda
