‘จักรวาล บ้านดิน’ ที่พักแบบ junk art กับแนวคิดชีวิตแบบ slow

Bed & Breakfast สีแจ่มบนหางดง-สะเมิงแห่งนี้ถูกสร้างจากคอนเซ็ปต์ว่า ‘มีเงินก็ทำ ไม่มีก็หยุด’ กับการตกแต่งสถานที่ทั้งภายนอกและภายในด้วย junk art ที่ไม่ใช่ เพราะมันเท่ มันอาร์ต หรือมันโซคูล …แหม!! แต่ด้วยเจ้าของทั้งสามของ ‘จักรวาล บ้านดิน’ ไม่ได้มีอาชีพเป็นศิลปินแต่อย่างใด พวกเขาคือมนุษย์ธรรมดาที่ชอบคิดชอบทำและไม่เคยอยู่เฉยเท่านั้นเอง

โดยมีคุณน้าวัย 54 เป็นผู้ออกแบบและตกแต่งทั้งหมด ไม่มี 3D ไม่มีพิมพ์เขียว ไม่มีกูรูใดๆ ทั้งสิ้น แค่นั่งลงกับพื้นแล้วใช้ดินสอวาดลงบนกระดาษนั่นแหละ ส่วนการบริหารทุนซึ่งมีอยู่น้อยนิดนั้น แทนที่จะไปเดินสวยๆ ตามห้างฯ หรือศูนย์รวมของตกแต่งบ้าน ทั้งสามก็จูงมือไปช้อปกระหน่ำตามซาเล้ง และร้านรับซื้อขยะแทน บางส่วนก็ไปขุดค้นเอามาจากข้าวของที่ตัวเองได้หันหลังให้ไปนาน แล้วหยิบขยะเหล่านั้นขึ้นมาสร้างบทบาทใหม่กลายเป็น ‘ของชิ้นเดียวในโลกที่ประเมินราคาไม่ได้’ เช่น ซากรถจักรยานถูกรถสิบล้อเหยียบบี้แบนที่ถูกแปลงร่างไปเป็นขาโต๊ะ ตาชั่งกิโลซึ่งเข็มหายไปนานแล้วกลายเป็นฐานที่แข็งแรงของโต๊ะกาแฟ อ่างอาบน้ำที่เยินสุดๆ ใช้งานไม่ได้แล้ว ถูกตัดออกให้กลายเป็นรูปทรงของเก้าอี้โซฟาแล้วใช้แท่งเหล็กเชื่อมเป็นขา ส่วนจานรับส่งสัญาณเคเบิ้ลที่ถูกปลดระวางก็จัดการเสริมความงามเสียใหม่ เติมผมเติมตาเติมปากเข้าไป กลายเป็นใบหน้าอารมณ์ดีของจานยูบีซีผู้มีใบหน้าอันกลมแป้น! ส่วนตัวบ้านนั้น หลังแรกเป็นการว่าจ้างให้ลูกน้องของคุณโจน จันได มาสร้าง เพื่อที่ตัวเองและคนงานในชุมชนจะได้เรียนรู้  know-how ไปด้วย ส่วน 13 หลังที่เหลือ เจ้าของทั้งสามและคนงานก็จัดการลงมือช่วยกัน ดินที่ใช้ก็ไม่ได้ไปซื้อที่ไหนหรอกค่ะ ขุดเอาจากที่ดินของตัวเองนั้นล่ะ

สำหรับที่มาของรีสอร์ทแห่งนี้นั้น เริ่มจากเจ้าของทั้งสาม ซึ่งเป็นญาติๆ กัน อยากหาซื้อที่ดินไว้เพื่อปลูกบ้านอยู่ด้วยกันตอนแก่ กระทั่งพอได้ที่ดินมาจากทางอินเทอร์เน็ต ก็เริ่มมีความคิดงอกว่า อยากให้คนอื่นได้เบรคตัวเองจากความวุ่นวาย ชนิดไม่ต้องรับรู้อะไรในโลกทั้งสิ้น และมีโอกาสได้เข้ามาใช้ชีวิตแบบสโลว์ๆ ตรงนี้บ้าง ชนิดไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น หรือแอร์ และไม่มีพนักงานยกกระเป๋าที่จะคอยให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะพื้นฐานของจักรวาลบ้านดินไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อธุรกิจเป็นหลัก ทุกอย่างเกิดมาจากความรักและบ้าที่จะทำ!

คุณสมบัติของผู้ที่จะมาพักผ่อนยังที่นี่นั้น จะต้องจองล่วงหน้า ต้องไม่ส่งเสียงดัง ต้องเคารพและให้เกียรติชุมชน และอาจต้องเข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม เพราะตกดึกกลางหุบเขาไม่มีอะไรให้ทำ! นอกเสียจาก นอนนับดาวบนท้องฟ้าไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เผลอหลับไปกับขยะรอบตัวที่พูดไม่ได้ แต่ทุกสิ่งล้วนมีความงามในตัวเอง อยู่ที่ใครจะมองก็เท่านั้นเอง

อ้างอิง:  Jakawan Baandin