อ้าวเฮ้ย! ป้ายโฆษณาหายไปไหนหว่า? บริโภคศิลปะดีกว่ากันเยอะ
คงจะแปลกพิลึกหากขณะเดินทางไปทำงานวันนี้ แล้วพบว่าบนท้องถนนปราศจากแผ่นปิดป้ายโฆษณา สินค้าแบรนด์ดังต่างๆ แต่กลับแทนที่ด้วยภาพเขียนลิน้ำมันของศิลปินดังระดับโลก
คงจะแปลกพิลึกหากขณะเดินทางไปทำงานวันนี้ แล้วพบว่าบนท้องถนนปราศจากแผ่นปิดป้ายโฆษณา สินค้าแบรนด์ดังต่างๆ แต่กลับแทนที่ด้วยภาพเขียนลิน้ำมันของศิลปินดังระดับโลก
เบื้องหลังเสื้อสูทแบรนด์ดัง ราคาแพง เมดอินกัมพูชาสักตัว คุณว่า ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง …หยาดเหงื่อ โดนกดขี่ และท้องที่หิว? เมดอินอะไรไม่สำคัญ เพราะสินค้าที่ผลิตขึ้น
แรกที่มองงานก็จะเห็นเปฏิมากรรมรูปสัตว์ต่างๆ อยู่ในอิริยาบถราวกับมีชีวิต อย่างม้าที่ควบทะยานแข่งกันพุ่งไปข้างหน้าฝ่ากระแสลม แต่เมื่อขยับเข้ามาใกล้ก็จะพบส่วนประกอบ
อาจจะสงสัยว่ามันเป็นปั๊มของค่ายน้ำมันเจ้าไหนที่เปิดช่องให้เจ้าของตกแต่งอาคารได้สุดแสบสีสันแบบนี้ ก็คงต้องบอกกันว่าไม่ใช่ปั๊มของเจ้ายุทธจักรธุรกิจน้ำมันชื่อดังใดๆ แต่เป็นปั๊มน้ำมันร้าง
อาจคุ้นเคยกับภาพซากปรักในอดีตที่เกิดขึ้นในหลายแหล่งวัฒนธรรมโบราณ มันตายไปท่ามกลางการปล่อยให้รกร้างเพื่อรอวันที่จะมีใครสักคนขุดคุ้ยหาความหมาย แต่สำหรับที่นี่มันไม่ได้
จะเป็นยังไงนะ ถ้าบังเอิญเดินไปพบสวนขนาดจิ๋วที่จัดไว้อย่างมีสไตล์อยู่บนหลุมถนนหรือทางเท้า ก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่านี่มันเเป็นผลงานของใครสักคน…ช่างมีอารมณ์ขันน่าสนใจเหลือเกิน
จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อถ่ายทอดภาพความสัมพันธ์ระหว่าง ‘พ่อกับลูก’ บางทีอาจใช้แค่ไม่กี่นาที แต่บางคนคิดว่าอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น ภาพถ่ายพ่อกับลูกชุดนี้ชวนให้นึกถึง
“ใครหนอรักเราเท่าชีวี ใครหนอปราณีไม่มีเสื่อมคลาย ใครหนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย รักเขาไม่หน่าย มิคิดทำลายใครหนอ…” บทเพลงนี้ถ่ายทอดความรักอันยิ่งใหญ่และไม่มีขอบเขต
ใครที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจรอบโลกอยู่ประจำ คงทราบดีว่าหลายปีหลังมานี่ ประเทศเล็กๆ ทางฝั่งยุโรปหลายประเทศ เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยชนิดล้มไม่เป็นท่า และดูน่าจะใช้เวลาอีกยาวนาน
ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นเหล่าคนดังในวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นายแบบ/นางแบบ ฯลฯ มากมายลุกขึ้นมาถ่ายภาพคู่กับ ‘ปลา’ หลากหลายสายพันธุ์แบบนี้ แน่นอน..มันเป็นภาพที่ไม่คุ้นตา