ในวันที่เราอาศัยอยู่ในส่วนหนึ่งของโลกที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ทันสมัย ทั้งมีไฟฟ้าใช้ตลอดเวลา มีน้ำดื่มที่สะอาด เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีห้างสรรพสินค้าให้เดินเล่นในวันหยุดแบบสบายอารมณ์
แต่ในทางกลับกันอีกซีกโลกหนึ่งลำพังแค่ไฟฟ้าที่คอยให้ความสว่างไสวยังเข้าไม่ถึงด้วยซ้ำ
ในประเทศกานาของทวีปแอฟริกา หากว่าเรารู้จักประเทศนี้มากน้อยแค่ไหน เห็นที่ต้องบอกว่าน้อยมาก เพียงผิวเผินก็คงเป็นประเทศที่ยังไม่เจริญมากนัก แต่อยากจะรู้ลึกลงไปมากกว่านี้คงเทียบไม่ได้กับกับหนุ่มใหญ่ที่ชื่อ Ben Markham อดีตรองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ ExxonMobil บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโลก ที่หลังจากรีไทร์แล้วก็เดินทางไปยังกานากับภรรยาเพื่อเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้คนในชุมชนอยู่ 18 เดือน ขณะเดียวกันก็พบว่าหลายๆ โรงเรียนตามชนบทที่ห่างไกลจากเมืองกลับไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง และยังไม่มีเครื่องเล่นของเด็กๆ อีกด้วย กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการอ่านหนังสือช่วงเวลากลางคืน
Ben Markham จึงตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในชื่อ ‘Empower Playgrounds’ พร้อมกับใช้ความรู้และประสบการณ์ของตัวเองร่วมกับมหาวิทยาลัยบริกแฮม สร้างสรรค์เครื่องเล่นม้าหมุนซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าไปในตัวได้เช่นกัน ด้วยแนวคิดว่าพลังของเด็กๆ นั้นไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะเด็กอายุ 8–12 ปี สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 150 วัตต์ต่อชั่วโมง มีแบตเตอรีคอยเก็บกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ไว้สำหรับชาร์ทเป็นโคมไฟ LED เพื่อให้เด็กๆ ได้มีไฟฟ้าอ่านหนังสือในเวลากลางคืน
โครงการนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 และได้ขยายไปแล้วหลายสิบโรงเรียนในหมู่บ้านชนบทของประเทศกานา ด้วยเครื่องเล่นม้าหมุนที่มีต้นทุนเพียงแค่ 10,000 เหรียญสหรัฐ ที่จะให้พลังงานโคมไฟได้ถึง 50 ตัว ต่อหนึ่งโรงเรียน และให้นักเรียนสามารถหมุนเวียนนำกลับบ้านได้ ใช้ได้นาน 40 ชั่วโมง และมีอายุการใช้งานยาว 5 ปีเลยทีเดียว
สำหรับเราแล้ว แค่โคมไฟขนาด 25 วัตต์ อาจดูไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ เพราะชีวิตของเราแทบจะ 24 ชั่วโมงก็มีแสงสว่างอยู่ตลอด แต่เมื่อเทียบกับเด็กๆ ที่ประเทศกานาที่ต้องเจอกับความมืดถึง 12 ชั่วโมงต่อวัน มันก็เหมือนกับแสงแห่งความหวังที่มีค่าคอยช่วยให้พวกเขาพบคนพบชีวิตที่ดีกว่าในอนาคต
[youtube url=”http://youtu.be/JVDRafXCQ5A” width=”600″ height=”340″]
อ้างอิง : Fast Company, EmpowerPlaygrounds