Dog-A-Like แอพจับคู่หน้าเหมือน หาเจ้าของใหม่ให้สุนัขไร้บ้าน


ขณะที่ชีวิตในแต่ละวันของคนเราดูเร่งรีบ เทคโนโลยีถีบเราให้ทันยุคสมัยจนไม่มีเวลาสนใจสิ่งรอบกาย แต่โครงการ The PEDIIGREE® Adoption Drive ของอาหารสุนัขยี่ห้อคุ้นหูที่ออสเตรเลียกลับใช้เทคโนโลยีมาช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตข้างทางอย่างสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง ไร้บ้าน ให้กลับมามีชีวิตที่ดีได้อีกครั้ง

แคมเปญ Dog-A-Like เกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย ประเทศที่มีปัญหาสุนัขไร้บ้านปีละกว่าแสนตัว แคมเปญนี้เกิดจากความคิดง่ายๆ ที่ว่า ถ้าการไปรับอุปการะสุนัขตามสถานสงเคราะห์มันดูยุ่งยาก ก็ทำให้มันง่ายแบบส่งตรงถึงมือคุณเสียเลยสิ เราเคยได้ยินกันว่าสุนัขมักจะเหมือนเจ้าของ ทั้งอุปนิสัย แม้กระทั่งหน้าตา แคมเปญนี้จึงจับเอาความคิดที่ว่ามาตอบโจทย์โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นแอพพลิเคชั่นวิเคราะห์โครงหน้าของเรา เอาไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลหน้าตาของสุนัขไร้บ้านตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเราสามารถดูผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือหรือเฟสบุ๊คก็ได้

ชาวออสซี่จึงพากันใช้แอพพลิเคชั่นนนี้เป็นการใหญ่ และบอกต่อกันเป็นจำนวนมาก เพราะโดยไอเดียแล้วมันสนุกที่จะได้เห็นหน้าของเราไปจับคู่กับสุนัขตัวใดตัวหนึ่ง ผลที่ได้รับก็คือ เมื่อบุพเพสันนิวาสที่ทำให้ ‘หนึ่งคน’ กับ ‘หนึ่งตัว’ มาเจอกัน โอกาสการเอาสุนัขไปรับเลี้ยงจริงๆ ก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ช่วยบรรเทาปัญหาสุนัขไร้บ้านของออสเตรเลียที่มีเพิ่มขึ้นจำนวนมากในแต่ละปีได้อย่างเห็นผล

หันมามองเมืองไทยกันบ้าง เรายังคงเห็นสุนัขที่น่าสงสารตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ในสภาพที่รอวันตาย พวกเขาเหล่านั้นพูดไม่ได้ และหากใครลองเข้าไปเยี่ยมดูตามสถานที่เหล่านี้ เราจะได้เห็นและรับรู้อะไรบางอย่างจากแววตาของพวกเขา ซึ่งอาจกำลังบอกอะไรกับเราอยู่ก็เป็นได้

เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอาจทำให้เราก้ามข้าวอุปสรรคต่างๆ ได้โดยง่าย แต่เรามักจะไม่ค่อยเจอเทคโนโลยีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนแอพพลิเคชั่น Dog-A-Like นี้สักเท่าไหร่ เสียดายที่เกิดขึ้นที่ออสเตรเลียเท่านั้น แต่ในอนาคตอาจะมีคนไทยสักคนเอาแนวความคิดนี้ มาช่วยเหลือสุนัขไร้บ้านในบ้านเราก็เป็นได้

สุนัขบางตัวคงจะดีใจที่ได้เจอเจ้าของคนใหม่ใจดีแทนที่เจ้าของเดิม แต่สำหรับบางตัวแล้ว เขาอาจจะดีใจมากที่สุดเมื่อได้เจอเจ้าของคนแรกในชีวิต…ก่อนจะสิ้นลมหายใจ

สนใจแคมเปญนี้ คลิกดูได้ที่ www.pedigreeadoptiondrive.com.au

ตัวอย่างสภาพน้องหมาหมดตามสถานสงเคราะห์ในประเทศไทย

Photo Credit: Kittipat M