การเมาแล้วขับนั้นเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะเหตุหลังจากนั้นทำให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินและหลายครั้งเป็นชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นคนดื่มเองหรือคนบริสุทธิ์ที่อยู่ตามท้องถนน จะเป็นยังไงถ้าเราสามารถเตือนคนเหล่านี้ได้ว่า…เมาแล้วนะ และไม่สามารถขับขี่ได้ นี่เองคือที่มาของแคมเปญนี้
ที่ประเทศบราซิลมีอัตราการเมาแล้วขับสูงมาก ทำให้รัฐต้องจ่ายภาษีเพื่อดูแลเรื่องนี้เป็นเงินจำนวนมาก หนทางที่ดีในการลดปัญหาเรื่องนี้คือ ให้คนนั้นตระหนักว่าเมื่อดื่มมากแล้วไม่ควรขับรถ เอเจนซี่โฆษณา Ogilvy & Mather บราซิลได้ร่วมมือกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบราซิล อย่างบาร์ Aurora และร้าน Boteco Ferraz เพื่อทำแคมเปญนี้ขึ้น โดยได้ทำการสำรวจแล้วว่า เมื่อคนดื่มมากๆ เข้า มักจะเริ่มรู้สึกมั่นใจ และสามารถขึ้นไปบนเวทีร้องเพลงคาราโอเกะได้ ทางครีเอทีฟจึงได้คิดแผนสนุกๆ โดยนำเอาไมโครโฟนในร้านและเครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์มาดัดแปลงเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้เป็นไมโครโฟนที่สามารถวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดได้ เมื่อทดสอบว่าใช้การได้ดีแล้ว จึงนำไปติดตั้งที่ร้านทั้ง 2 แห่ง เมื่อมีคนดื่มจนเริ่มมั่นใจที่จะร้องเพลงคาราโอเกะบนเวที ไมโครโฟนก็จะทำการตรวจจับระดับแอลกอฮอล์ และเมื่อร้องเพลงจบ หน้าจอคาราโอเกะจะแสดงผลคะแนนขึ้น แต่แทนที่จะเป็นคะแนนที่ร้องเพลงได้เพราะหรือตรงคีย์ ก็กลับเป็นระดับแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในกระแสเลือดแทน ถ้าคนที่ร้องนั้นมีระดับแอลกอฮอล์ที่สูงเกินกว่าที่จะขับขี่ยานพาหนะได้แล้วละก็ คาราโอเกะก็จะขึ้นจอให้อีกด้วยว่า “คุณไม่สามารถขับขี่ได้” ซึ่งก็จะเป็นการเตือนสติให้คนที่ร้องและเพื่อนที่มาด้วยกันรู้ว่า ‘เมาแล้วไม่ควรขับ’
จะเห็นได้ว่าการสร้างจิตสำนึกนั้น บางทีก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่แย่ๆ หรือเป็นเรื่องลบถึงจะเตือนสติคนได้ การสร้างเรื่องราวในทางบวก ก็สามารถเตือนสติและทำให้คนปฏิบัตตามได้เช่นกัน พลังแห่งความครีเอทีฟนั้นสามารถสร้างรอยยิ้มและเปลี่ยนโลกได้ในทางที่ดีขึ้น ผมคิดว่าครีเอทีฟไทยไม่แพ้ใครเหมือนกัน ถ้าคุณมีโอกาสก็จงนำโอกาสนั้นมาสร้างสรรค์ผลงานดีๆ เพื่อให้โลกและสังคมดีขึ้นแบบนี้ได้เช่นกัน