‘แฉรอยช้ำ ป้ายตา ถ่ายแล้วแท็ก’ รณรงค์หยุดทำร้ายผู้หญิงเสียที!!

กลายเป็นกระแสร้อนแรงพอสมควรในช่วงนี้ หรือตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อนิตยสารชั้นนำอย่าง Marie Claire ชวนผู้หญิงไทยลุกขึ้นมาทำสัญลักษณ์ใต้ตารณรงค์หยุดทำร้ายผู้หญิง เพราะตระหนักถึงปัญหาอันน่าสลดใจ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นรื่อยๆ จากข้อมูลชวนอึ้งขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN ในปี 2555 ที่ชี้ชัดว่าหญิงไทยยอมรับการถูกทำร้ายเป็นอันดับ 2 ของโลก!!! รองจากแซมเบีย

ในขณะที่ผลสำรวจจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลระบุว่า 30% ของผู้หญิงเลือกที่จะอดทนต่อความรุนแรงในครอบครัวหรือความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นกับตนเอง โดยในจำนวนนี้  25.3% ระบุว่าอายไม่กล้าแจ้งความ 23.7% ทนเพื่อคนในครอบครัว 19.7% กลัวถูกทำร้ายซ้ำ 17.3% ไม่รู้ช่องทางขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยอมรับว่าสาเหตุหลักมาจากความเชื่อที่ผิดๆ ของตัวผู้หญิงเองที่มองว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนตัวและน่าอับอาย จนต้องยอมทนและยอมจำนน ซึ่งหญิงไทยยุคใหม่นั้นมีทั้งความแกร่งและกล้าเผชิญปัญหาเพียงลำพังจนกลายเป็นดาบสองคมได้เช่นกัน

Marie Claire มองเห็นช่องทางการสื่อสารอันทรงพลังอย่าง social network จึงได้ผนึกกำลังเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของเอเจนซี่ชื่อดัง BBDO Bangkok จัดแคมเปญชวนอาสาสมัคร 7 นักแสดงและนางแบบชื่อดังที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก (Follower) ได้แก่ คริส และ พลอย หอวัง, หญิง รฐา (ญาญ่า หญิง), จอย ชลธิชา, จิ๊บ ปกฉัตร, พลอย รัตนรัตน์ และจ๊ะ จิตตาภา รวมทั้งชวนผู้หญิงทั่วประเทศไทยร่วมกันทำสัญลักษณ์ใต้ตา โดยใช้เครื่องสำอางหรือลิปติกใดๆ ก็ได้ ถ่ายรูปและอัพขึ้นอินสตาแกรม หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คของตนเอง ติดแท็กใต้ภาพ #WomenAgainstAbuse ในวันต่อต้านและยุติการใช้ความรุนแรงในสตรี (Stop Violence Against Women’s Day) ในวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เรียกว่าเป็นการปลุกพลังของผู้หญิงให้หันมาเข้าใจถึงปัญหาสังคมได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งการนำเอาเครื่องสำอางค์ โดยเฉพาะลิปสติกอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามของผู้หญิงที่ขาดไม่ได้เลยในการแต่งหน้า กลายมาเป็นอาวุธที่ใช้เรียกร้องความเป็นธรรมอย่างสันติวิธี นับว่าเก๋และได้ผลทางจิตวิทยาเป็นอย่างดี  แคมเปญที่ว่านี้ยังกระตุ้นให้คนในสังคมหยุดเพิกเฉยกับความรุนแรงไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองหรือคนรอบข้าง และลุกขึ้นมาสู้กับปัญหาอย่างมีสติ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการนำภาพของคนที่ทำสัญลักษณ์ใต้ตาทั้งหมดมานี้ต่อยอดจัดเป็นนิทรรศการอีกด้วย