มันนานมาแล้วที่ผมไม่ได้ก้าวเข้าโรงหนังเพื่อชมหนังภาพยนตร์ โดยเฉพาะกับห้างหรูกลางกรุงที่ราคาค่าตั๋วสูงลิ่วพอๆ กับทานผัดกระเพราหมูราดข้าวได้ 6 มื้อ 2 วันเต็ม ยิ่งผู้คนที่หาเช้ากินค่ำด้วยแล้ว จะเลือกชมภาพยนตร์หนึ่งเรื่องต้องคิดหน้าคิดหลังอย่างรอบครอบ แต่เราที่อยู่ในเมืองใหญ่ยังโชคดีที่สามารถเลือกชมภาพยนตร์ในรูปแบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉายในโรงหนัง ผ่านอินเทอร์เน็ท หรือดูย้อนหลังทางทีวี แต่สำหรับชาวชนบทโดยเฉพาะประเทศในแถบทวีปเอเชีย โอกาสในการเข้าถึงภาพยนตร์แทบจะเป็นศูนย์
และนี่คือต้นตอแนวคิดของ Mobile Movie ที่ต้องการนำสื่อภาพยนตร์เข้าไปฉายในท้องถิ่นที่ทุรกันดารผ่านเทคโนโลยีการฉายหนังอย่างง่ายๆ ทีมงานทำการคัดเลือกหนังที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นหนังทำเงินตาม Box Office หนังที่ผลิตจากท้องถิ่น และหนังภาพยนตร์สำหรับเด็ก โดยเนื้อหาจะมุ่งเน้นเรื่องการเรียนรู้ การศึกษา เป็นหลัก พร้อมๆ กับการสอดแทรกความรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองอย่างง่ายๆ เช่น การใช้สบู่ยับยั้งแบคทีเรีย การกรองน้ำก่อนการบริโภค การใช้ตะเกียงที่ขับเคลื่อนพลังงานจากแสงอาทิตย์ การใช้เชื้อเพลิงอย่างเหมาะสมในการประกอบอาหาร และการเรียนรู้หลักโภชนาการเบื้องต้น อันเป็นการเรียนรู้สิ่งดีๆ ผ่านสื่อบันเทิงน้ำดีที่นอกจากจะช่วยให้ชุมชนมีความสุขแล้ว ยังช่วยให้ความรู้ควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ Mobile Movie ยังทำการสัมภาษณ์เก็บข้อมูลทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในชุมชนว่ามีปัญหาตรงไหน มีความต้องการอะไร ผ่านแอพพลิเคชั่นที่เตรียมไว้บนมือถือ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาจัดการและหาแนวทางช่วยเหลือได้ตรงประเด็น
แนวคิดนี้มุ่งหวังที่จะเชื่อมผู้คนที่อยู่ตามชนบทกับองค์กรที่คิดดีใจดี ไม่ว่าจะเป็นองค์กรจัดตั้งโดยไม่แสวงหาผลกำไร หรือบริษัทเอกชนที่มุ่งประโยชน์เพื่อสังคม Mobile Movie ได้เปิดตัวโครงการไปแล้วที่ประเทศอินโดนีเซียและพม่า และมุ่งหวังที่จะนำข้อมูลที่ได้มาสร้างสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่
[vimeo url=”http://vimeo.com/75365039″ width=”600″ height=”340″]
อ้างอิง : Mobile Movie