บ้านคือปัจจัยสี่ที่สำคัญของมนุษย์ และก็ยังสำคัญต่อสิ่งมีชีวตประเภทอื่นเช่นเดียวกัน.. สมัยก่อนเราเคยเห็นปูเสฉวนมากมายตามชายหาด สัตว์ชนิดนี้ต้องอาศัยเปลือกหอยสำหรับอยู่อาศัยเพื่อป้องกันตัวเองและปกป้องตัวเองจากแสงแดด โดยปูเสฉวนจะเลือกเปลือกหอยที่เหมาะพอดีกับตัว เมื่อขนาดตัวใหญ่ขึ้นก็ต้องหาบ้านใหม่เปลี่ยนเปลือกหอยไปเรื่อยๆ ปัจจุบันสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ไม่เพียงมนุษย์ที่ได้รับผลกระทบ ปูเสฉวนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน (สำหรับบ้านเราไม่เฉพาะเปลือกหอยหายากขึ้น แต่มนุษย์ยังเก็บเปลือกหอยเหล่านั้นไปขายเป็นของที่ระลึกด้วย) เมื่อเปลือกหอยที่เป็นบ้านหายากขึ้น เหล่าปูเสฉวนก็หันไปใช้ขยะะที่อยู่ตามชายหาดเป็นบ้านใหม่แทน ใครเห็นก็หดหู่
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะอยากได้ แต่เพราะไม่มีทางเลือก ขณะเดียวกันขยะเหล่านี้ไม่ได้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของปูเท่าไหร่นัก ขนาดและน้ำหนักก็ไม่พอดีเท่าธรรมชาติของสรีระปู อีกทั้งไม่เหมาะกับลำตัวที่นุ่มและเปราะบางของมัน สิ่งเหล่านี้เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีใครลุกขึ้นมาแก้อย่างจริงจัง ยกเว้นแบรนด์หนึ่งที่ชื่อว่า Suumo
Suumo คือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือก็คือการช่วยหาที่อยู่อาศัยให้กับคน ภายใต้สโลแกนที่ว่า ‘Providing comfortable house for all’ บริษัทนี้หยิบจับประเด็นการหาที่อยู่อาศัยยากของปูเสฉวนมาทำการประชาสัมพันธ์ผสมกับการทำ CSR เพื่อสิ่งแวดล้อมโดยร่วมมือกับ Tokyo University of Marine Science and Techonology จัดทำวัสดุที่ผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยปูเสฉวน ซึ่งถือว่าสมประโยชน์ร่วมกัน เพราะทางมหาวิทยาลัยก็ต้องการทำการวิจัยเพื่อการศึกษาด้วยเช่นกัน
วัสดุนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับปูทั้งขนาด น้ำหนัก และพื้นที่อยู่อาศัยข้างใน ทุกอย่างลงตัว สีสันเหมาะกับธรรมชาติพร้อมประทับตราแบรนด์ลงไป ทุกอย่างดำเนินการทดลองไปได้ด้วยดี คนเห็นปูเหล่านี้ก็ไม่ต้องอุจาดตาจากภาพที่เราเห็นปูอาศัยในขยะ คนเห็นก็จะเข้าใจทันทีว่าแบรนด์อย่าง Suumo เกิดขึ้นในโลกใบนี้เพื่ออะไร แน่นอนว่าอาจจะดูขัดตาและไม่เหมาะสมสำหรับคนหลายๆ คนที่รักในธรรมชาติ แต่กิจกรรมนี้ถูกกำกับและจัดทำขึ้นภายใต้การดูแลทางนิเวศวิทยาและสมุทรศาสตร์อย่างเต็มที่และถูกต้อง จึงไม่จำเป็นที่ต้องมีประเด็นดราม่าแต่อย่างใด
หรือถ้ามองอีกแง่หนึ่งคือ ปัญหาบนโลกมีมากมาย เราจะนั่งรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคนจัดทำแล้วรอการวิจารณ์จากเราเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ หรือเราควรมองว่าปัญหาทั้งหมดของโลกเราทุกคนควรช่วยกันรับผิดชอบ รวมถึงภาคเอกชน บนโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจ การให้เอกชนมาช่วยกันร่วมมือฟื้นฟูโลกใบนี้อาจจะกลายเป็นบทบาทมี่สำคัญในอนาคตก็ได้ เมื่อสมประโยชน์ร่วมกันทั้งหมด ทำไมจะทำไม่ได้ ต่อไปเราอาจจะได้เห็นกิจกรรมแบบเป็นคนดีโดยที่ไม่จำเป็นต้องปิดทองหลังพระมากขึ้นในอนาคตก็เป็นได้
สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อทุกคน(และสัตว์)ได้ประโยชน์เหมือนกันหมด โลกก็จะมีโอกาสกลับมาสมดุลในการอยู่ร่วมกันอีกครั้ง.. ภายในบ้านที่เรียกว่า ‘โลก’
‘Providing comfortable earth for all’
[youtube url=”http://youtu.be/wDAOCOxRMXg” width=”600″ height=”350″]
[youtube url=”http://youtu.be/Gyn3Ss0G_3E” width=”600″ height=”350″]
อ้างอิง : Suumo
