เราอาจเคยสงสัยว่าการตั้งชื่อพายุที่ไว้ใช้เรียกชื่อตามข่าวนั้นมาจากไหน จริงๆ แล้วประวัติการตั้งชื่อพายุมีมายาวนานโดยมักตั้งชื่อตามชื่อคน ซึ่งก็เป็นธรรมเนียมดั้งเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยน แต่ละโซนของภูมิภาคก็มีกฎเกณฑ์ต่างกันไป แต่ก็มีส่วนที่คล้ายกันคือ มีลิสต์รายชื่อของพายุที่ไว้เรียกกันอยู่แล้ว เพื่อที่จะให้มีชื่อเรียกที่จดจำกันโดยง่าย โดยจะใช้กับกรณีที่พายุลูกหนึ่งๆ ก่อตัวขึ้นเป็นระดับพายุโซนร้อน โดยจะหมุนเวียนสลับกันใช้กันไปเรื่อยๆ อย่างในบริเวณพื้นที่ของทางอเมริกาที่อยู่ในส่วนของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ก็จะมีองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ World Meteorological Organization (WMO) เป็นผู้กำหนดการตั้งชื่อเรียกตามตัวอักษรให้ใช้ทุกๆ 6 ปี ซึ่งส่วนมากก็เป็นชื่อโหลทั้งสิ้น เช่น แอนเดรีย (Andrea) รีเบกาห์ (Rebekah) บิลล์ (Bill) ลิซา (Lisa) มาเรีย (Maria) นิโคล (Nicole) ปีเตอร์ (Peter) วิลเลียม (William) หรือ ชื่อพายุเฮอริเคนที่เรารู้จักกันดีก็อย่าง แคทรีนา (Katrina) ไอรีน (Irene) แซนดี้ (Sandy) ที่กำหนดให้เลิกใช้ไปแล้วเพื่อลดการสะเทือนใจ
คำถามทจึงเกิดขึ้น ทำไมเจ้าของชื่อโหลของคนเหล่านั้นได้กลายเป็นผู้รับเคราะห์ของหายนะที่เกิดขึ้น ผู้คนก่นด่าชื่อเหล่านั้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร เรียกอีกอย่างว่าซวยไป เลยมีความคิดที่ว่าหากเราจะรณรงค์ให้คนสนใจสิ่งแวดล้อม ชื่อเหล่านี้ควรจะถูกเปลี่ยนเสียใหม่ และชื่อที่เหมาะสมที่ควรจะถูกนำมาแทนที่ ก็คือตัวการที่ทำให้เกิดพายุ
พายุที่มากขึ้นและรุนแรงมากขึ้นนั้น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันนั่นเอง และตัวแทนของประชาชนอย่างนักการเมืองก็คือตัวต้นเหตุที่เพิกเฉยต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมโลก ที่อเมริกามีนักการเมืองบางกลุ่มคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับหลักการที่ว่าสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นเกิดจากน้ำมือมนุษย์ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อนโยบายที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมโลกให้มากขึ้น รายชื่อนักการเมืองในอเมริกาเหล่านี้เองคือชื่อที่ควรจะใช้เรียกแทนชื่อโหลๆ เหล่านั้น และเป็นที่มาของการร่วมล่ารายชื่อไปถึง WMO ขอให้เปลี่ยนการเรียกชื่อพายุเสียใหม่ให้เป็นชื่อนักการเมืองเหล่านี้แทน นับเป็นไอเดียที่แสนเจ็บแสบจริงๆ
แต่เดิมการตั้งชื่อโดยใช้ชื่อนักการเมืองนั้นมีมาก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเปรียบเปรยว่านักการเมืองคนนั้นนำความหายนะมาให้เช่นเดียวกับพายุ แต่ก็เลิกใช้กันไป คราวนี้การร่วมล่ารายชื่อครั้งนี้ถือว่าไม่ได้เป็นความคิดใหม่ ถึงปัจจุบันมีคนลงชื่อที่ www.climatenamechange.org มากกว่า 1 แสนคนแล้ว นอกจากนั้น ในเว็บไซต์ยังมีการเชิญชวนให้เราเล่น Application เพื่อดูว่าเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊คของเราที่เป็นชื่อโหลมีชื่อที่ซ้ำกับพายุหรือไม่ ถ้ำซ้ำระบบจะขออนุญาตให้เราส่งแคมเปญนี้บอกต่อไปยังลิสต์เพื่อนๆ เหล่านั้นด้วย เรียกว่าได้ว่า นอกจากไอเดียตั้งต้นจะดีแล้ว การระดมคนให้มาลงนามนั้นยังทำได้โดนใจอีกด้วย ลำพังแค่คนชื่อโหลที่เก็บความซวยในเรื่องชื่อพายุก็มีมากมายมหาศาลแล้ว
เรื่องสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นับวันหายนะจากธรรมชาติเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ไอเดียนี้แม้ว่าในที่สุดทาง WMO จะยอมหรือไม่ยอมเปลี่ยนชื่อก็ตาม ก็ถือเป็นไอเดียเริ่มต้นที่ดีที่เราจะไม่ยอมแพ้ต่อการปกป้องโลกใบนี้
[youtube url=”http://youtu.be/efAUCG9oTb8″ width=”600″ height=”350″]
