ใน 1 วัน ถ้าให้คุณเลือกระหว่างขาดโทรศัพท์มือถือกับขาดน้ำดื่มสะอาด คุณยอมที่จะขาดอะไร? สำหรับคนที่ไม่เสพติดมือถือมากจนเข้าขั้นโคม่า ก็คงต้องเลือกน้ำดื่มสะอาด เพราะทุกคนต่างเรียนรู้ว่า หากร่างกายขาดแคลนน้ำดื่มใน 1 วัน ต้องดับขันธ์ก่อนกาลอันควรแน่นอน…แล้วเด็กๆ ในประเทศโลกที่สามล่ะ อย่าว่าแต่มือถือเลย น้ำดื่มสะอาดสักแก้วยังไม่มี จะอยู่ได้ยังไง?
โครงการ Tap Project ขององค์กรยูนิเซฟซึ่งมีมาตั้งแต่ 2008 เป็นโครงการบริจาคที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะออกแคมเปญมาครั้งใดก็ต้องมีลูกเล่นกลเม็ดในการบริจาคที่เรียกว่าเป็นนวัตกรรมการบริจาคได้เลยทุกปีไป ล่าสุดยังผูกปิ่นโตอยู่กับ Droga5 เอเจนซี่โฆษณา โดย David Droga (ผู้ที่เดินเข้าไปหาองค์กรยูนิเซฟเสนอแคมเปญ Tap Project ครั้งแรกด้วยการให้ชาวนิวยอร์คบริจาค 1 ดอลล่าร์ต่อการขอน้ำดื่มจากร้านอาหาร จนโครงการ Tap Project โด่งดังไปทั่วโลกด้วยความง่ายอย่างคาดไม่ถึง)
โดยแคมเปญ Tap Project ในครั้งนี้ต้องการท้าให้มวลชนในสังคมก้มหน้า หันมาตระหนักถึงการขาดแคลนซึ่งสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวันอย่างน้ำดื่มสะอาด โดยขอให้ผู้ที่ต้องการบริจาคเข้าไปที่ www.UniceffTapProject.org ซึ่งมีกลไกเซนเซอร์ในการตรวจการสั่นสะเทือนของมือถือ แล้วปล่อยมือถือวางไว้เฉยๆ ไม่แตะไม่ต้อง ทุกๆ 10 นาทีที่มือถือไม่ขยับ ผู้สนับสนุนโครงการหรือสปอนเซอร์จะบริจาค 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือเด็ก 1 คนให้มีน้ำดื่มสะอาดดื่มกินได้ถึง 40 วัน ยิ่งมือถือนอนนิ่งไม่ได้ใช้งานนานแค่ไหน ก็เท่ากับยอดบริจาคที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยเหลือเด็กได้มากชีวิตขึ้น ผลพลอยได้ที่ได้จากการบริจาคครั้งนี้คือ ผู้บริจาคยังได้ถือโอกาสทำ Digital Detox หรือล้างพิษดิจิตอล เลิก ละ การก้มหน้าเกาะติดอยู่กับมือถือได้อีกต่างหาก หรือถ้ามันคันไม้คันมือต้องใช้มือถือจริงๆ แต่อยากบริจาค ก็สามารถบริจาคโดยหักบัตรเครดิตได้ครั้งละ 5 ดอลล่าร์ เท่ากับช่วยให้เด็ก 1 คนให้มีน้ำดื่มถึง 200 วันเลยทีเดียว!
เราเคยคิดว่าวันหนึ่งๆ เราขาดมือไม่ได้ แต่แคมเปญ Unicef Tap Project ทำให้เรารู้ว่า ขาดมือถือไม่ตายแถมยังช่วยชีวิตเด็กๆ ด้อยโอกาสด้วยน้ำดื่มสะอาดอีกด้วย เวลาที่เราไม่วุ่นวายเวื่นเว้อกับมือถือเนี่ย เอาไปทำอะไรดีๆ ได้อีกเยอะเลยเชียว…ว่าป่ะ?
[youtube url=”http://www.youtube.com/watch?v=Wetbh84MGOc&feature=youtu.be” width=”600″ height=”350″]
อ้างอิง : FastCompany
