เวลามีคนพูดว่า “สองมือเรานี่แหละที่จะเปลี่ยนโลกได้” คนฟังบางคนอาจจะส่ายหัวไม่เห็นด้วย และอาจจะว่ากลับไปด้วยซ้ำว่า “อย่าโลกสวยให้มากนัก” แต่หนังสือ We Own the City หนังสือเล่มล่าสุดของนิตยสาร Cities คือหนึ่งในข้อพิสูจน์ว่า หลายๆ ครั้ง มือสองมือของคนคนหนึ่งก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง อาจจะไม่ได้เปลี่ยน ‘โลก’ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ ‘เมือง’ ที่เขาหรือเธอคนนั้นอาศัยอยู่เปลี่ยนไป แบบไม่ง้อหน่วยงานภาครัฐ
หากใครที่กำลังมองหาหนังสือที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวคุณเองลุกขึ้นมาทำอะไรที่แตกต่างเพื่อให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น บางทีหนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นคำตอบ เพราะ We Own the City ได้รับรวมโปรเจ็กต์พัฒนาชุมชนที่เป็นกรณีศึกษาในเมืองใหญ่ทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ อัมสเตอร์ดัม ฮ่องกง มอสโก นิวยอร์ค และไทเป มาให้อ่านให้ชมกันอย่างหนำใจ และเพื่อให้ผู้อ่านเห็นว่าผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่เมืองสักเมืองหนึ่งนั้นไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนทั้งหลายเสมอไป เพราะหลายๆ ครั้งมันเกิดจากฝีมือของคนธรรมดาๆ อย่างเราๆ นี่แหละ แต่พอมันติดลมกลายเป็นกระแสแล้ว มันก็ช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้เหมือนกัน นอกจากจะมุ่งสื่อสารนี้ไปถึงคนธรรมดาๆ ทั่วไปแล้ว We Own the City ยังมุ่งสร้างความตระหนักรู้ในหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่มีบทบาทในการพัฒนาผังเมืองและชุมชนว่า บางทีคุณอาจจะไม่ต้องทำทุกอย่างอยู่คนเดียวก็ได้นะ บางทีการร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ หรือแม้แต่สาธารณชนเองก็ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ และอาจจะดีกว่าทำกันเพียงลำพังแค่กลุ่มเดียวด้วยซ้ำ
อ่านอย่างงี้แล้ว เริ่มรู้สึกแล้วหรือยังว่า เราก็เป็นเจ้าของชุมชนของเราเหมือนกัน ^^
อ้างอิง: cities
