สำหรับเมืองร้อนอย่างประเทศไทย ‘พรม’ คงไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเท่าไรนัก แต่กับประเทศที่มีครบทั้งสี่ฤดูแล้ว พรมก็ไม่ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญในบ้าน ที่ทุกคนต้องมีติดไว้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นในฤดูหนาว แต่คำถามก็คือเมื่อถึงวันหนึ่งที่พรมผืนเก่ามันเน่าสุดๆ แล้ว…เราจะทำอะไรกับมันได้บ้างนอกจากโยนทิ้ง?
ปัญหาคือพรมเป็นสิ่งที่ ‘รีไซเคิลยาก’ เพราะเป็นของชิ้นใหญ่และทำจากวัสดุหลายชนิด หรือจะเอาไปทิ้งถมทะเลก็ไม่ใช่ง่ายๆ อีก เพราะอาจต้องเสียค่าขนขยะแพงกว่าค่าพรมมั้ย? ด้วยเหตุนี้ Jenny และ Rich McIver แห่งบริษัท Wishbone Design (ประเทศนิวซีแลนด์) จึงคิดหาวิธี ‘กำจัดพรม’ อย่างชาญฉลาดขึ้น พวกเขาประยุกต์เทคโนโลยีรีไซเคิลสมัยใหม่เพื่อจะพลิก ‘ผืนพรม’ ให้กลายเป็น ‘ท่อเฟรม’ สำหรับจักรยานเด็กได้
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการแปรรูปวัสดุเช่นนี้ก็ต้องอาศัยความปราดเปรื่องทางวิศวกรรมอยู่สักหน่อย Jenny และ Rich เผยว่าในขั้นแรกนั้นพวกเขาต้องตัดขนพรมแยกออกจากส่วนแผ่นรองพรมก่อน จากนั้นค่อยนำเส้นใยไนลอน (เนื้อพรม) และวัสดุพลาสติก (แผ่นรองพรม) ไปรีไซเคิลแยกจากกัน โดยทั้งหมดจะถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและนำไปผ่านความร้อนจนสะอาดกลายเป็นของเหลว ท้ายสุดค่อยเติม ‘ใยแก้ว’ ผสมลงไปใหม่เพื่อทำให้วัสดุรีไซเคิลนี้มีความคงทนและแข็งแกร่งเพียงพอที่จะนำไปขึ้นรูปเป็นเฟรมจักรยานได้ แต่ทีเด็ดไม่ได้อยู่แค่ที่วัสดุตั้งต้นเท่านั้น จักรยาน Wishbone ยังซ่อนความเจ๋งไว้ในไอเดียการออกแบบด้วย นั่นก็คือมันเป็นจักรยานเด็กที่คิดเผื่อถึง ‘การปรับขยายขนาด’ ไว้อย่างเสร็จสรรพสำหรับเด็กอายุ 1-6 ปี นั่นหมายความว่าถ้าลูกๆ ของคุณโตขึ้น จักรยานรีไซเคิลคันนี้ก็จะโตตามพวกเขาไปได้ด้วย เรียกว่าเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่คิดถึงความยั่งยืนกันจริงๆ จังๆ
เชื่อว่าความตั้งใจดีเช่นนี้คงจะทำให้พรมผืนเก่าจากบ้านของใครหลายๆ คนมีชีวิตยืนยาวออกไปได้อีกพักใหญ่ (ในคราบจักรยาน) และคงจะดียิ่งขึ้นอีกหากจักรยานเหล่านั้นจะถูกส่งผ่านเป็นของเล่นวินเทจจากรุ่นไปสู่รุ่น (เช่นจากพี่ไปสู่น้อง) เพราะสุดท้ายแล้วมันก็คือความเข้าใจจากผู้บริโภคเรานี่แหละ ที่จะทำให้การใช้เทคโนโลยีในแบบของ Wishbone Design มีความหมายและคุณค่าขึ้นมาในสังคม และอาจช่วยจุดประกายความคิดดีๆ ให้แพร่ขยายไปสู่การใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลของวงการอื่นๆ ด้วย
อ้างอิง : inhabitat
