ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าเราๆ คงคุ้นเคยกับนวัตกรรมที่เรียกว่าหลอดไฟแอลอีดี (LED หรือ Light Emitting Diode) กันมากขึ้น เราเห็นหลอดไฟประเภทนี้ถูกนำไปใช้ประดับตกแต่งอาคารต่างๆ เราเห็นเด็กๆ วัยรุ่นเอาหลอดไฟประเภทนี้ไปทำป้ายไฟ หรือแม้แต่จอโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ก็ใช้ไฟแอลอีดีนี้เช่นกัน
แต่อันที่จริงแล้วแอลอีดียังมีศักยภาพมากกว่านั้น ด้วยความที่มีคุณสมบัติคงทน กินกระแสไฟน้อย มีอายุการใช้งานยาวนาน แถมไม่มีรังสีที่ทำอันตรายต่อผิวมนุษย์ หลอดไฟแอลอีดีจึงเป็นเหมือนหลอดไฟยุคใหม่ที่หลุดออกมาจากอุดมคติ ทว่าทำไมไม่ค่อยมีใครนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่?
นี่คือคำถามของอภิชาติ แผ่ประเสริฐ หนึ่งในผู้ชนะเลิศจากโครงการเดอะ พลัส (The ‘+’ Project by Philips) ในหัวข้อเมืองน่าอยู่ (Livable Cities) ที่คิดนำหลอดไฟแอลอีดีมาติดตั้งให้ความสว่างบริเวณพื้นที่สาธารณะ แต่หากเป็นหลอดไฟแอลอีดีปกตินั้นก็อาจจะธรรมดาเกินไป “แล้วถ้าเป็นหลอดไฟพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยล่ะ?” ก็คงจะเจ๋งทีเดียว
ประโยคนั้นเองที่สามารถซื้อใจคณะกรรมการได้อย่างชะงัด และตามสัญญาที่ Philips ระบุไว้ว่าจะช่วยสานต่อโปรเจ็กต์ที่ชนะเลิศให้เป็นจริง ณ วันนี้ ไอเดียหลอดไฟแอลอีดีพลังงานแสงอาทิตย์ของอภิชาติก็ได้ปรากฏขึ้นจริงแล้วที่สวนหลวงพระราม 8 โดยโคมไฟที่ Philips สร้างขึ้นสำหรับโครงการนี้ใช้หลอดไฟที่กินไฟเพียง 14 วัตตส์ แต่สามารถทำงานได้ถึง 50,000 ชั่วโมง (หรือประมาณสิบปี) ตัวโคมนั้นติดแผงโซลาร์เซลล์คุณภาพสูงไว้ด้วยเพื่อที่โคมนั้นจะได้นำแปลงแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานได้ด้วยตัวเอง ต่อจากนี้ ทุกค่ำคืนของสวนหลวงพระราม 8 ก็จะไม่มืดมิด (จนเกินไป) อีกต่อไป และกรุงเทพฯ ก็น่าอยู่ขึ้นมาอีกหน่อย
ว่าแล้วก็ชักอยากเห็นแล้วสิว่า โครงการที่ชนะเลิศอีกสองโครงการจะออกมาในรูปแบบไหน
