ใครเคยไปโรงพยาบาลและต้องนั่งรอพยาบาลหรือหมอเป็นเวลานานจนเหลือทนบ้าง ยกมือขึ้นสูงๆ เราคนหนึ่งล่ะ ที่เคยรอจนไข้ขึ้นหนาวสั่น หิวข้าวก็ไม่กล้าไปกินเพราะกลัวหมอเรียกแล้วโดนลัดคิว หรืออยากตรวจเร็วๆ เพราะมันป่วยจนเปื่อยไปหมดแล้ว บางทีก็ต้องรีบกลับไปทำงานแต่ต้องรอแล้วรอเล่านี่คือปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก ที่โรงพยาบาลไม่ว่าใหญ่หรือเล็กต้องคอยบริหารคิว บริหารอารมณ์ บริหารความต้องการของคนไข้ และการบริหารบุคคลากรโรงพยายาลให้ดี เพราะความเจ็บป่วยมันมากเกินจะอดทนรอจนชั่วกาลปาวสานบนเก้าอี้ห้องนั่งรอใช่ไหม
สารคดีเรื่อง The Waiting Room นี้เป็นเรื่องราวที่ใช้ตัวละครจริงในโรงพยาบาล เล่าขานประสบการณ์และความคิดเห็นให้ดูกันจะๆ ว่าความอดทนนั้นบางทีก็ไม่รู้จะบริหารให้มันทนอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ทั้งเห็นใจหมอพยาบาล ทั้งเห็นใจเจ้าหน้าที่และคนไข้ เรื่องราวนี้เล่าผ่านการบริหารสาธารณสุขแห่งโรงพยาบาลในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คนไข้มีทั้งแบบมีประกันและไม่มีประกันสังคม ต่างก็เฝ้ารอร้อรอเหมือนกันหมด จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นที่ห้องฉุกเฉิน ชีวิตของคนที่ไม่มีประกันฯ นั้นน่าสงสารแค่ไหน คนหลากหลายวัยและอาชีพต่างรอคอยอย่างแทบจะสิ้นหวัง ในทางกลับกัน บนความทุกข์ยากและสิ้นหวังนั้นก็ยังสอดแทรกด้านดีๆ ให้ได้ชื่นใจบ้าง อย่าง เจ้าหน้าที่นิสัยดีที่เปรียบได้ดั่งนางฟ้ามาคอยดูแลเอาใจใส่คนไข้ ช่วยให้บรรยากาศในการรอได้บรรเทาเบาบางลงไปบ้าง
ในขณะที่ปัญหาแห่งสาธารณสุขนี้ยังคงมีอยู่และดูท่าว่าคนด้อยโอกาสก็ยังคงต้องรอต่อไป เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นว่าในปัญหาใหญ่ๆ มีคนตัวเล็กๆที่ยังมุ่งมั่นทำหน้าที่ในทุกๆวัน เพราะสิ่งเล็กๆที่เค้าทำ ความห่วงใยเอาใจใส่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ยามเจ็บไข้แค่นี่ก็ทำให้โลกแห่งการรอคอยในโรงพยาบาลดีขึ้นได้ทีละวัน และจะขยายต่อไปในอนาคต
[youtube url=”http://www.youtube.com/watch?v=NWIAjsf9Xq0″ width=”600″ height=”340″]
อ้างอิง: The Waiting Room
กำกับ: Peter Nicks
