ในแวดวงดนตรี โดยเฉพาะฝั่งกีต้าร์ Fender (เฟนเดอร์) และ Gibson (กิ๊บสัน) คือสองผู้ผลิตเครื่องดนตรีระดับโลกที่ตีคู่กันมาตลอด
ทั้งสองเจ้าไม่เพียงเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันวงการดนตรีเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมอย่างต่อเนื่องมาร่วม 10 ปี
ไม่สำคัญว่าใครตั้งองค์กรการกุศลก่อนหลัง เพราะทั้งสองบริษัทต่างมีความตั้งใจคืนกำไรแก่สังคมในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดย Fender ก่อตั้ง Fender Music Foundation ชื่อแซ่บอกโดยตรงว่ามีเป้าหมายเป็นองค์การกุศลเกี่ยวกับดนตรีเป็นหลักคือ นำดนตรีเป็นใบเบิกทางในการสร้างปัญญาและเพิ่มมูลค่าทางชีวิตของผู้ด้อยโอกาส โดยประสานงานกับชุมชน โรงเรียน และสถาบันศึกษาอื่นๆ ทั่วอเมริกา มอบเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชนทุกบาททุกสตางค์ และรายได้จากการขายสินค้าเกี่ยวกับดนตรีหายากสำหรับนักสะสม เปิดอบรมทางดนตรี รวมถึงการมอบอุปกรณ์ดนตรีและทุนการศึกษาทางดนตรีให้กับองค์กรหรือมูลนิธิต่างๆ อาทิ นำไปพัฒนาเด็ก บุคลากร เพื่อมีความรู้ความเข้าใจทางดนตรี ปรับบุคลิกภาพ และสามารถออกไปประกอบสัมมาอาชีวะ ทั้งยังสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ตนเองได้รับมาช่วยเหลือสังคมต่อไป
สำหรับ Gibson นั้น มีเครือข่ายขององค์กร Gibson Foundation ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2002 เป็นตัวสนับสนุนสังคม โดยเน้นเรื่องการกระจายทุนไปสู่องค์กรต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเกี่ยวข้องกับดนตรี หากเน้นที่การนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา สังคม สุขภาพ สาธารณูปโภค และสภาพแวดล้อม แต่ก็ยังไม่ทิ้งภาคส่วนของดนตรีและศิลปะที่ผสมผสานอยู่ด้วย สังเกตจากมูลนิธิ/องค์กรที่เป็นพันธมิตร มีตั้งแต่ YMCA, UNICEF, Global Green, Free The Children, MusiCares ฯลฯ เห็นได้ว่า การให้ความช่วยเหลือในรูปแบบของ Gibson Foundation นี้จะออกไปในทางเป็นตัวประสานหรือองค์กรที่คอยสนับสนุนองค์กรอื่นๆ อีกทีเสียส่วนใหญ่ การระดมทุนก็ไม่ต่างจาก Fender Music Foundation นัก คือมีทั้งการระดมผ่านการประมูลสิ่งของเกี่ยวกับดนตรีและการรับบริจาคโดยตรง ซึ่งผู้บริจาคสามารถเลือกได้ว่า ต้องการให้เงินบริจาคไปถึงองค์กรไหน ขณะเดียวกันก็มีการบริจาคอุปกรณ์ดนตรีให้กับองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใด มีช่องทางในการสร้างสรรค์หรือพัฒนาสังคมอย่างไร ก็ถือว่ากลุ่มธุรกิจดนตรีที่มีรายรับสูงอย่าง Fender และ Gibson ไม่ได้ละเลยปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น พยายามเอาตัวสอดแทรกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ได้เยียวยาและลงแรงลงใจมากกว่าจะทำไปแค่ผ่านๆ หรือเอาหน้ากับสรรพากร จนหลังๆ มานี้มากลุ่มนักดนตรีทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าร่วมลงแรงกับพวกเขาอย่างไม่ขาดสาย เห็นแล้วก็ดีใจกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน โดยเฉพาะผู้ขาดโอกาสที่มีทางออกใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
[youtube url=”http://youtu.be/1g-4wiFek8A” width=”600″ height=”338″]
Fender Music Foundation กับการใช้ดนตรีเป็นตัวขับเคลื่อนพัฒนาการบุคลิกภาพและปรับตัวในสังคม
[youtube url=”http://youtu.be/PAxXF1NLoSs” width=”600″ height=”338″]
นอกจากการรับบริจาคโดยตรงผ่านเว็บไซต์ Gibson Foundation ยังทำโครงการพิเศษกับศิลปินชาวอังกฤษ ทิม เวคฟิลด์ นำคลื่นเสียงที่ได้จากเพลงดังต่างๆ มาพิมพ์เป็นภาพลงบนผ้าใบ แล้วนำออกประมูลเพื่อระดมทุนเพิ่ม โดยบนภาพจะมีลายเซ็นของทั้งศิลปินผู้วาดและศิลปินเจ้าของเพลง โดยที่ผ่านมามีทั้ง Coldplay, Pink Floyd, เซอร์ พอล แม็คคาร์ทนีย์ จาก The Beatles ฯลฯ ให้เกียรติส่งเพลงเข้าร่วม
[youtube url=”http://youtu.be/KT0mEyrvHd8″ width=”600″ height=”338″]
การแลกเปลี่ยนการสนับสนุนซึ่งกันและกัน Fender ร่วมจัดงานเปิดตัวอัลบั้มให้วง 100 Monkeys ตัววงก็นำกีต้าร์มาประมูลระดมเงินบริจาคให้กับ Fender Music Foundation
[youtube url=”http://youtu.be/BqugKtIHwUA” width=”600″ height=”338″]
แคมเปญร่วมกับศิลปินร็อคเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของ Gibson Foundation เมื่อ 2 ปีก่อน
เด็กๆ จากโครงการดนตรีวีดสปอร์ตในนิวยอร์กกับอุปกรณ์ดนตรีที่ได้รับการสนับสนุนจาก Fender Music Foundation
Gibson Foundation จับมือกับพิธีกรคนดัง โอปราห์ วินฟรีย์ ให้การสนับสนุนทางการเงินเป็นเวลา 5 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงในแอฟริกาใต้ได้มีโอกาสเรียนวิชาดนตรี
ภาพผลงานซาวน์ดเวฟของทิม เวคฟิลด์ ที่ได้จากเพลง Wish You Were Here ของ Pink Floyd (ซ้าย) และ Underneath The Stars ของ The Cure (ขวา)
เฟนเดอร์ เทเลคาสเตอร์ พร้อมลายเซ็น จอน บอง โจวี่ ที่เพิ่งเปิดขายไปเมื่อเดือนมกราคมเพื่อระดมทุนเข้าองค์กร ถูกจับจองไปอย่างรวดเร็ว
กีต้าร์เฟนเดอร์ที่ถูกใช้ในมิวสิควิดีโอ Needing/Getting ของวง OK Go ก็ถูกนำไปประมูลเช่นกัน
อ้างอิง: Fender Music Foundation, Gibson Foundation
