ในสังคมปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความสนใจต่อบรรจุภัณฑ์พอๆ กับตัวสินค้า นอกจากจะต้องการความสวยงามภายนอกของตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมยังต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งจากรายงานด้านบรรจุภัณฑ์และสิ่งแวดล้อมโดย The Nielsen Company ปี 2008 ระบุว่า บรรจุภัณฑ์พึงใช้สะดวก ง่าย มีนวัตกรรม มีอนามัย น่าดึงดูด ให้ข้อมูลสินค้าและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งดูเหมือน GreenBox กล่องพิซซ่ากู้โลกกล่องนี้จะตอบโจทย์ได้ครบ
GreenBox ถือกำเนิดในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา โดย ECO Ecovention, LLC บริษัทผู้ออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเล็งเห็นว่า อเมริกาเป็นประเทศที่คนชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะพิซซ่า จนกล่าวกันว่าในทุกๆ ปี ชาวอเมริกันใช้กล่องพิซซ่า 3 พันล้านกล่อง ถ้าวางซ้อนกัน แค่สองปีก็จะถึงโลกพระจันทร์! นั่นหมายถึงจำนวนขยะจากกล่องพิซซ่ากองยักษ์ แม้กล่องพิซซ่าส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 60% แต่กล่องพิซซ่าใช้แล้ว ถูกปฎิเสธจากการรีไซเคิล เพราะคราบมันของพิซซ่าที่เหนอะติดกล่อง คนเก็บขยะขายยังเมินซะด้วยซ้ำ หนำซ้ำกล่องพิซซ่ามักจะใหญ่เทอะทะล้นขยะเป็นภาพไม่น่าดูที่เห็นจนชินตาตามถังขยะในอเมริกา GreenBox จึงใช้วัสดุรีไซเคิล 100% แต่ไม่ใช่แค่นั้นที่ทำให้ GreenBox ถูกยกย่องว่าเป็นกล่องพิซซ่าแห่งศตวรรษ เพราะ GreenBox ยังช่วยประหยัดน้ำ เอ๊ะยังไง? ก็มันถูกออกแบบให้ฝากล่องพิซซ่าสามารถฉีกออกตามรอยพับได้ 4 ชิ้น ใช้แทนจานพิซซ่าแบบใช้ครั้งเดียวสำหรับ 4 คนได้สบายๆ ช่วยประหยัดน้ำในการล้างจานยังไง จบปัญหาคราบไขมันจากพิซซ่าล้างยาก เปลืองน้ำและเปลืองแรง ความเจ๋งของ GreenBox ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะยังสามารถพับให้เป็นกล่องเล็กๆ ขนาดครึ่งหนึ่งของกล่อง สามารถเก็บเข้าแช่ในตู้เย็นหากกินไม่หมด ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บและแน่นอนช่วยลดขนาดและปริมาณขยะได้อย่างเห็นผล
GreenBox เปิดโอกาสให้ผู้จำหน่ายพิซซ่าที่สนใจและใส่ใจโลกได้นำลิขสิทธิ์นี้ไปใช้ หากทุกผู้จำหน่ายพิซซ่าแค่ในอเมริกาประเทศเดียวร่วมใจกันเปลี่ยนจากกล่องพิซซ่าแบบเดิมๆ ที่ไม่เวิร์คทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภคมาเป็น GreenBox ก็คงช่วยลดปริมาณขยะและลดภาระแก่โลกใปได้มากโข แถมยังได้ใจผู้บริโภคไปเต็มๆ โดยไม่ต้องอาศัยโปรโมชั่นอะไรเลย
[youtube url=”http://www.youtube.com/watch?v=gQBjJjpkjl0″ width=”600″ height=”350″]
อ้างอิง : GreenBox, Green Upgrader
