ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีของเครื่องพิมพ์ 3 มิติให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น จนทำให้สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดระยะเวลาการผลิต และตอนนี้มีการนำเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนของร่างกาย เช่นอวัยวะเทียม เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่สูญเสียอวัยวะให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่มีราคาถูกลงได้ ซึ่งหนึ่งในสุดยอดโครงการเพื่อสังคมที่นำเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติไปใช้ประโยชน์ก็คือ ‘Project Daniel’
‘Project Daniel’ เป็นโปรเจ็กต์ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Mick Ebeling CEO แห่ง Not Impossible Labs หลังจากที่เขาได้อ่านเรื่องราวของเด็กชายวัย 14 ปี ชื่อว่า เดเนียล โอมาร์ ผู้ซึ่งสูญเสียแขนทั้งสองข้างจากเหตุการณ์ระเบิดในประเทศซูดาน ทวีปแอฟริกาใต้ เรื่องราวดังกล่าวจุดประกายให้เขาอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เขาได้ร่วมมือกับนักประดิษฐ์ Robohand ชาวแอฟริกา, นักประสาทวิทยาชาวออสเตรเลียแห่ง MIT และบริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3 มิติในแคลิฟอร์เนีย ออกแบบแขนเทียมที่ผลิตจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการแขนขาดจากสงครามแบ่งแยกดินแดนในประเทศซูดาน โดยแขนเทียมดังกล่าวใช้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าแขนเทียมทั่วไป (ประมาณ 100 เหรียญสหรัฐฯ) และใช้เวลาในการผลิตประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
เขาและทีมงานได้เดินทางไปยังซูดานพร้อมอุปกรณ์ครบครัน เพื่อพัฒนาแขนเทียมชิ้นแรกให้กับเด็กชายที่ชื่อ เดเนียล โอมาร์ มากไปกว่านั้น เขายังจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและผลิตแขนเทียมจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่นั่นเพื่อให้ผู้พิการเหล่านั้นสามารถผลิตแขนเทียมได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
นับว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ช่วยให้ผู้พิการหลายคนได้รับโอกาสครั้งสำคัญของชีวิต หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากแขนอย่างยากลำบาก แม้ว่าแขนเทียมนี้จะไม่ได้ดูทันสมัยและใช้งานได้มีประสิทธิภาพเหมือนกับแขนเทียมระดับไฮเอนด์ แต่มันก็มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยให้พวกเขาช่วยเหลือตัวเองได้อีกครั้ง
อ้างอิง : Not Impossible Labs
