เปลี่ยนลิฟท์ร้างเป็นอาร์ตแกลเลอรี่หลุดโลกในนิวยอร์ค


คงไม่แปลกอะไรที่เราจะสามารถพบเห็นอาร์ตแกลเลอรี่หรือพิพิธภัณฑ์ชื่อดังหลายต่อหลายแห่งในมหานครนิวยอร์ค และท่ามกลางตึกระฟ้าเหล่านั้น ภายในตรอกเล็กๆ ชื่อ Cortlandt ที่ตั้งอยู่ระหว่างถนน Franklin และ White ก็เป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งอาร์ตแกลเลอรี่อย่าง ‘Museum’ แห่งนี้ด้วย แต่ความน่าสนใจของ Museum ที่ก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจของ Alex Kalman และคู่พี่น้องตระกูล Safdie อย่าง Benny และ Josh เจ้าของค่ายหนังอินดี้ Red Bucket Films คือการรีโนเวทเอากล่องลิฟท์ที่ถูกทิ้งร้างให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งด้วยการปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวให้กลายเป็นอาร์ตแกลเลอรี่ขนาด 60 ตารางฟุต

ภายใต้ประตูเหล็กสีดำที่ดูโดดเด่นออกมาจากบริบทแวดล้อมอย่างสิ้นเชิง ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยผนังสีขาวและการออกแบบพื้นที่จัดแสดงให้คล้ายกับชั้นวางของในร้านสะดวกซื้อ เพื่อให้สามารถจัดแสดงผลงานได้มากพอในพื้นที่จำกัดเช่นนี้ ขณะที่ผลงานภายในแกลเลอรี่ถูกจัดแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือผลงานที่เป็นนิทรรศการถาวร และผลงานที่จะถูกคัดสรรมาจัดแสดงเป็นซีซั่นๆ ไป จำนวนกว่า 175 ชิ้น มีตั้งแต่หลอดยาสีฟันหลากยี่ห้อ ผลิตภัณฑ์จากฝีมือนักโทษในเรือนจำ กองอ้วกจำลองจากทั่วโลก กล่องใส่ทิปที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อให้ลูกค้าจดจำ ถุงมันฝรั่งยี่ห้อต่างๆ ไปจนถึงรองเท้าที่ Muntader al-Zaidi นักข่าวชาวอิรักขว้างใส่ George W Bush ระหว่างงานแถลงข่าวที่อิรักในปี 2008 ด้วย โดย Museum จะเปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งถ้าใครที่ไม่ว่างตามเวลาดังกล่าวก็สามารถไปดูผลงานจากช่องกระจกที่ทีมงานออกแบบเอาไว้หน้าประตูได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน

แม้ว่าภาพรวมที่เราเห็น ไล่ไปตั้งแต่สถานที่ตั้งซึ่งถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้เลยว่าซอยที่ดูเสื่อมโทรมที่ว่าจะมีแกลเลอรี่แหวกแนวหลังนี้ตั้งอยู่ รวมไปถึงผลงานที่นำมาจัดแสดงทั้งหมดก็จะแปลกและผิดแผกไปจากผลงานในอาร์ตแกลเลอรี่หรือพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ทั่วไป ทว่าเรากลับเห็นแง่มุมบางอย่างซ่อนอยู่ เพราะในขณะที่สังคมตีค่าว่าผลงานเหล่านี้ดูแสนจะธรรมดา เผลอๆ อาจจะไปแตะคำว่าไร้ค่าด้วยซ้ำ แต่แง่มุมที่ Alex, Benny และ Josh นำเสนอกลับไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เพราะพวกเขาเชื่อว่าสิ่งของต่างๆ ใน Museum คือภาพสะท้อนของสังคม วัฒนธรรม ความคิด และค่านิยมของยุคสมัยในปัจจุบันที่เชื่อมโยงกับอดีต ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงตัวตนของพวกเราเอง ณ ตอนนี้ ขณะเดียวกันมันก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งในโลกนั้นล้วนมีความงาม เรื่องราว และคุณค่าในตัวมันเองเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกมองมันจากมุมไหน ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากที่ทุกคนก้าวออกมาจาก Museum เราอาจจะมองสิ่งของสามัญเหล่านั้นด้วยมุมมองที่ต่างไปจากเดิม

[youtube url=”www.youtube.com/watch?v=MrP1syE91oo” width=”600″ height=”340″]

 

Alex Kalman / Josh Safdie / Benny Safdie

อ้างอิง: mmuseumm