e-diesel นวัตกรรมพลังงานสุดกรีนจากน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์

124

จากข้อจำกัดของปริมาณพลังงานธรรมชาติ ตลอดจนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เราได้เห็นในปัจจุบัน ทำให้หลายองค์กรจากทั่วโลกต่างค้นคว้า ทดลอง และพัฒนาพลังงานทางเลือกชนิดใหม่เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การผลิตก๊าซชีวภาพจากปฏิกิริยาการย่อยสลายสารอินทรีย์ เช่น การหมักมูลสัตว์ ก๊าซโซฮอล์หรือเชื้อเพลิงที่ผลิตได้จากพืช การใช้พลังงานน้ำ พลังงานลม ไปจนถึงพลังงานจากโซล่าร์เซลล์ เป็นต้น และล่าสุดกับการพัฒนาน้ำมันดีเซลชนิดใหม่ที่ประกอบขึ้นจาก 3 องค์ประกอบที่แทบไม่น่าเชื่ออย่าง ‘น้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และพลังงานสีเขียว’ ที่พวกเขาเรียกว่า ‘e-diesel’ ขึ้น

งานนี้เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างผู้ผลิตรถยนตร์สัญชาติเยอรมนีอย่าง Audi และ Sunfire บริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีสีเขียว ที่ใช้หลักการ power‑to‑liquid (PtL) ในการผลิตเจ้า e-diesel นี้ขึ้นมา กระบวนการผลิตพลังงานทางเลือกชนิดนี้เริ่มต้นจากการให้ความร้อนกับน้ำในอุณหภูมิเกินกว่า 800 องศาเซลเซียส จนน้ำเปลี่ยนสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอ เพื่อให้องค์ประกอบของน้ำ (H2O) แตกตัวออกมาเป็นไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (O2) ซึ่งทีมพัฒนาเลือกใช้พลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในการให้ความร้อนเพื่อลดปริมาณ carbon footprint ที่จะถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ จากนั้นไฮโดรเจนที่ได้จะถูกนำไปผสมกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในถังผสมที่มีอุณหภูมิและความดันสูงจนกระทั่งได้ไฮโดรคาร์บอนหรือ Blue Crude ซึ่งเป็นน้ำมันดิบสีฟ้า อันเป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในขั้นตอนการกลั่นน้ำมัน โดยพวกเขาใช้วิธีเดียวกับการกลั่นน้ำมันดิบในโรงกลั่นทั่วไป

ความแตกต่างระหว่างน้ำมันทั่วไปกับ e-diesel เริ่มตั้งแต่สารตั้งต้นของ e-diesel ที่สามารถหาได้ทั่วไปและสามารถหมุนเวียนมาใช้ได้ทั้งน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ที่มีทั่วไปในอากาศ และพลังงานสะอาด การที่ e-diesel ปราศจากกำมะถันและสารปนเปื้อนตามธรรมชาติเจือปนอยู่ ซึ่งนั่นส่งผลดีกว่าการใช้น้ำมันทั่วไปตรงที่การเผาไหม้จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า มีปริมาณเสียงจากการเดินเครื่องของเครื่องยนต์น้อยกว่า ที่สำคัญคือการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมน้อยกว่าด้วย โดย e-diesel สามารถนำมาใช้กับเครื่องยนต์ได้โดยตรงหรือจะนำไปเป็นส่วนผสมร่วมกับน้ำมันดีเซลเหมือนกับไบโอดีเซลก็ได้เช่นกัน โดยโรงงานผลิต e-diesel ในเดรสดรันตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตดีเซลสังเคราะห์ที่ว่าให้ได้วันละ 160 ลิตรต่อวัน ขณะที่ทั้ง Audi และ Sunfire เองวางแผนจะสร้างโรงงานผลิต e-diesel อย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้ โดยคาดการว่าราคาน่าจะอยู่ที่ 1-1.5 ยูโร (35 บาท) ต่อลิตร

หากไม่นับรวมการนำก๊าซพิษอย่างคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนมาสร้างแหล่งพลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและปล่อยมลพิษน้อยกว่า โครงการผลิต e-diesel จากกระบวนการ power‑to‑liquid (PtL) ครั้งนี้ยังสะท้อนความสำเร็จในการจุดประกายไอเดียด้านสิ่งแวดล้อมจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นนวัตกรรมสำหรับอนาคตเท่านั้น แต่เป็นการสร้างฐานรากที่มั่นคงให้กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืนด้วยเช่นกัน

[youtube url=”http://youtu.be/7yaqcnO_Y2o” width=”600″ height=”350″]

images

Untitled-1

AT150279_large-626x442

audi-e-diesel-5-600x400

Audi-e-fuel-459Audi ediesel

Dialoge - Das Audi-Technologiemagazin 1/2014Sprit der Zukunft: Forschungsanlage in Dresden produziert erste Menge Audi e-diesel

อ้างอิง: Audi-Mediacenter