นอกจาก ‘yamoyo’ จะเป็นภาษา Nyanja แปลว่า ‘ชีวิต’ หรือ ‘การให้ชีวิต’ แล้ว มันยังเป็นชื่อของโครงการดีๆ อย่าง Kit Yamoyo ที่มี Simon และ Jane Berry เป็นหัวหอกสำคัญด้วย
โครงการดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่ Simon และ Jane มีโอกาสได้ทำงานเป็นอาสาสมัครให้กับโปรแกรม British Aid และตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่น้ำดื่มโคคาโคล่าซึ่งดูเหมือนจะเป็นของฟุ่มเฟือยสามารถหาได้ในร้านค้าของพื้นที่กันดารและเข้าถึงยากอย่าง Zambia ทว่าชุดรักษาพยาบาลพื้นฐานกลับเป็นสิ่งที่หายากแทบพลิกแผ่น ทั้งคู่เลยปิ๊งความคิดที่จะส่งผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษาพยาบาลพื้นฐานไปตามเส้นทางการจัดจำหน่ายโค้กเพื่อให้ถึงมือผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ จึงเริ่มผลักดันแนวคิดที่ว่าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงปี 2008 จนท้ายที่สุดโครงการ Kit Yamoyo ก็เกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างหลังจากที่ Simon ก่อตั้งมูลนิธิ ColaLife อย่างเป็นทางการเมื่อ 2 ปีก่อน โดยมี PI Global เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านภาพลักษณ์ของชุดรักษาพยาบาลดังกล่าว
หลังจากการพัฒนาแบบมาเกือบ 10 ครั้ง Kit Yamoyo ก็ลงตัวกับแพ็คเกจหน้าตาเรียบๆ ที่ใช้รูปทรงสามเหลี่ยมมาเป็นฟอร์มหลักเพื่อให้ชุดรักษาพยาบาลชุดนี้สามารถวางได้พอดีระหว่างคอขวดของโคคาโคล่าที่จัดเรียงอยู่ภายในลังสำหรับการขนส่ง โดยในหนึ่งชุดจะประกอบด้วย สบู่ก้อนและภาชนะสำหรับใส่ เกลือแร่สำหรับใช้ดื่มเมื่อมีอาการท้องร่วง (ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในพื้นที่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่าในทวีปแอฟริกา) Zinc Tablet จำนวน 10 เม็ด (สำหรับภาวะขาดแร่ธาตุสังกะสีกันที่พบมากในเด็กๆ แถบแอฟริกาเช่นกัน) และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือแผนพับซึ่งให้ข้อมูลส่วนประกอบต่างๆ ในชุดว่ามีอะไรบ้างและใช้งานอย่างไร นอกจากทีมออกแบบจะดีไซน์ให้ตัวแพ็คเกจจิ้งเหมาะสมกับการขนส่งแล้ว เจ้าฟอร์มสามเหลี่ยมดังกล่าวก็ถูกคิดมาแล้วว่าสามารถนำไปใช้เป็นภาชนะสำหรับตวงและผสมเกลือแร่เมื่อเกิดอาการท้องร่วงได้อีก
ถ้าไม่นับไอเดียเจ๋งๆ และความตั้งใจดีๆ Kit Yamoyo ยังมีความน่าสนใจในแง่โมเดลทางธุรกิจที่พวกเขาเชื่อว่า ‘สอนวิธีจับปลาให้เขา’ นั้นย่อมยั่งยืนกว่า ‘การให้ปลาทั้งตัว’ ดังนั้น Kit Yamoyo เลยออกมาในรูปแบบของการ ‘ขาย’ ไม่ใช่ให้การ ‘ให้เปล่า’ ซึ่งด้วยวิธีดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้คนท้องถิ่นมีรายได้จากการขายชุดยาชุดนี้แล้ว บรรดาแม่ๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักยังสามารถซื้อได้ในราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ ที่สำคัญเลยก็คือการเป็นอีกหนึ่งทางแก้ปัญหาที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคท้องร่วงไปได้ในตัว
ทีมงานจาก ColaLife บอกไว้ชัดเจนในเว็บไซต์ของเขาว่า หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะเพิ่มผลิตภัณฑ์จำเป็นอื่นๆ อย่างเช่นถุงยางอนามัยเข้าไปด้วย ซึ่งล่าสุดที่เราเข้าไปดูความคืบหน้า ทีมงาน ColaLife คงจะต้องทำให้ความคิดที่ว่านี้เป็นรูปเป็นร่างซะแล้ว เพราะทั้งตัวผลิตภัณฑ์เอง ไปจนถึงโมเดลทางธุรกิจต่างก็ได้รับความสนใจจากประเทศนำร่องอย่าง Zambia ไปมากพอตัวกับยอดสั่งซื้อกว่า 20,000 ชุด ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่ win-win กันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายให้ ฝ่ายรับ รวมถึงสังคมโดยรวมที่มีโอกาสได้เห็นและสามารถเป็นส่วนหนึ่งผ่านการบริจาคให้กับโครงการนี้ได้ด้วย yamoyo สมชื่อจริงๆ ล่ะ