สหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ถือครอง ‘ปืน’ มากที่สุดในโลก ซึ่งชาวอเมริกัน 60% คิดว่ามีปินไว้เพื่อป้องกันตัว แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดคือ ปืนอาจพาไปสู่การฆาตกรรม การฆ่าตัวตาย และสาเหตุการตายที่ไม่คาดฝัน เลวร้ายที่สุดคือการสังหารหมู่ที่เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในอเมริกา
States United to Prevent Gun Violence ร่วมกับเอเจนซี่โฆษณา Grey New York จึงอยากจะชวนให้ชาวอเมริกันที่อยากจะซื้อปืนได้คิดเสียใหม่ ด้วยคลิปแนว Social Experiment (การทดสอบพฤติกรรมทางสังคม) The Unthinkable โดยจัดตั้งร้านขายปืนชั่วคราวขึ้นมาในแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ค ติดตั้งกล้องไว้ทั่วร้านเพื่อสังเกตพฤติกรรมของคนที่เข้ามาซื้อปืน พนักงานขายปืนที่ถูกแต่งตั้งโดยทีมงาน ถามลูกค้าถึงจุดประสงค์ในการซื้อปืน ส่วนใหญ่ตอบว่าเพื่อป้องกันตัว จากนั้นพนักงานจะแนะนำปืนชนิดต่างๆ ซึ่งแต่ละกระบอกจะมีป้ายบอกประวัติอันน่าสะพรึงติดมาด้วย ไม่ว่าจะปืนลูกโม่ที่เด็ก 5 ขวบเข้าไปหยิบเล่นจากห้องนอนของพ่อแม่ แล้วลงมายิงน้องชายวัย 9 เดือน, ปืน 9 มม. กึ่งอัตโนมัติ น้ำหนักเบาจนสามารถพกไปช้อปปิ้งได้ เหมือนชายคนหนึ่งที่พกปืนไปห้างวอลมาร์ท แล้วลูกวัยแค่ 2 ขวบก็คว้ามันจากกระเป๋ามายิงเล่น, หรือจะเอาปืนไรเฟิลกระบอกนี้ที่แม่ของอดัม ลันซ่า เก็บไว้ในบ้านเพื่อป้องกันตัวเองและครอบครัว แต่ลูกชายของเธอกลับเอามาใช้เป็นอาวุธมาตุฆาตแล้วไปยิงกราดต่อที่โรงเรียนแซนดี้ ฮุก สังเวยชีวิตครูไป 6 คน! เด็กนักเรียนอีก 20 คน!! …ลูกค้าทุกราย เมื่อได้ฟังประวัติศาสตร์เรื่องราวของปืนแต่ละกระบอก ต่างก็อึ้ง และถอยออกจากร้านไป หลังจากนั้นทีมงานขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับความคิดในการซื้อปืน พวกเขาต่างบอกว่าพวกเขาคิดผิดและขอคิดใหม่ ไม่ขอมีปืนไว้ในครอบครอง
แม้หลายหน่วยงานในอเมริกาจะพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเกี่ยวกับกฏหมายการครองครองปืนของชาวอเมริกันเสียใหม่แต่ก็ยังไม่ได้ผล สิ่งที่ประชาชนทำได้โดยไม่พึ่งรัฐฯ คือการตัดวงจรการซื้อของตนเอง เมื่อไม่มีการซื้อ ก็ไม่มีปืน…เมื่อไม่มีปืน ก็ไม่มีเหตุการณ์น่าสลด…
หากคิดจะซื้อ ก็คิดไว้ว่า…ปืนทุกกระบอกมีเรื่องราว อย่าให้มันเกิดขึ้นซ้ำรอยกับตัวคุณและครอบครัว
[youtube url=”http://youtu.be/1nAfWfF4TjM” width=”600″ height=”350″]
อ้างอิง : Adweek