แทบไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวชาวอินเดียกว่า 2-3 ล้านคนถูกบีบบังคับให้เดินเข้าสู่การค้าทางเพศ ไม่ว่าจะแลกร่างกายเพื่อความอยู่รอด บางคนถูกบังคับให้ขายบริการเพื่อนำรายได้ส่งเสียหนี้สิน ที่น่าตกใจมากที่สุดคือ หญิงสาวเดินเข้าสู่วงจรค้ากามตั้งแต่วัย 12 ขวบ จากครอบครัวยากจน ส่วนใหญ่แม่ของเด็กหญิงเหล่านั้นก็อยู่ในวงจรเดียวกัน ส่งผลให้เธอจำเป็นต้องทิ้งการเรียน ออกจากสังคมการศึกษา ซ่อนตัวห่างจากสังคมทั่วไป และท้ายที่สุด ทั้งชีวิตของเธอก็จบลงด้วยอาชีพขายบริการที่เสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ แม้ว่าจะมีหลากหลายองค์กร NGO ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ด้วยจำนวนที่มากโอกาสในการเข้าถึงหญิงสาวทุกกลุ่มจึงเป็นไปได้ยาก
และนี่คือหนึ่งเหตุผลสำคัญของการสร้างแบรนด์ Anchal โดยมุ่งหวังที่จะเข้าช่วยเหลือหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อค้าประเวณี ร่วมก่อตั้งโดย Colleen Clines ดีกรีปริญญาโทนักออกแบบภูมิสถาปัตย์จาก Rhode Island School of Design (RISD) ผู้มีความเชื่อว่า “งานออกแบบสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้” Anchal ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2009 กับธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยว่าจ้างหญิงสาวผู้โชคร้ายเข้าสู่กระบวนการผลิตพร้อมเปิดอบรมให้เขาเหล่านั้นได้เรียนรู้วิธีการผลิตชิ้นงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสีผ้า การปักลวดลาย และการตัดเย็บโดยมอบค่าแรงที่เป็นธรรม สวัสดิการที่ดี เพื่อให้เธอหลุดออกจากวงจรค้ากาม พัฒนาคุณภาพชีวิตของเธอและครอบครัวให้ดีขึ้น นอกจากทีมงาน Anchal จะสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเองแล้ว ยังมีการร่วมมือระหว่างดารา ศิลปิน และนักสร้างสรรค์อื่นๆ ภายใต้ชื่อโครงการ The Didi Connection เช่น งานออกแบบผ้าพันคอ Didi Scarves ที่ร่วมกับนักแสดงสาว America Ferrera จากเรื่อง Half the Sky หรือถุงผ้า Ekta Totes ที่ร่วมกับ Louisvilles-based Beaded Treasures Project รายได้จากสินค้าจะแปรเปลี่ยนไปเป็นเวิร์คช็อปการศึกษา การอบรมด้านงานออกแบบ สวัสดิการด้านสุขภาพ และทุนการศึกษาสำหรับเด็ก
ปัจจุบัน Anchal สามารถช่วยเหลือหญิงสาวกว่า 100 คนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่สำคัญเธอไม่จำเป็นต้องพลีร่างกายเพื่อต่อชีวิตแต่สามารถใช้ศักยภาพด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เธอเรียนรู้สร้างรายได้เลี้ยงดูชีวิตของตัวเองและครอบครัว ที่สำคัญที่สุดคือการคืนศักดิ์ศรีความเป็นหญิงของเธอกลับมาได้อย่างภาคภูมิ
อ้างอิง : Anchel in Magazine GOOD, Anchal Project
