สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง งานวรรณกรรม กับ การเดินทาง คือ ‘เรื่องเล่า’ ที่่ชวนให้ค้นหา และเมื่อสองอย่างนี้มารวมกัน จึงเกิดเรื่องเล่าที่น่ารัก+น่าเอาเยี่ยงอย่างของร้านหนังสือในรูปแบบรถตู้ ภายใต้ชื่อเรียบง่ายแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง ว่า ‘Tell a Story’
รถตู้ร้านหนังสือนี้ ถือกำเนิดและเติบโตในกรุงลิสบอน เมืองหลวงของสาธารณรัฐโปรตุเกส เป็นร้านที่มุ่งเผยแพร่ผลงานเลื่องชื่อฝีมือนักเขียนชาวโปรตุเกสระดับตำนาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้รู้จักดินแดนแห่งนี้ผ่านงานวรรณกรรมอันได้ชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมโปรตุเกสเลยก็ว่าได้ วงการหนังสือจึงมีส่วนช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศได้อย่างน่าสนใจ เหมือนยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว
‘Tell a Story’ นั้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ ของโปรตุเกส กระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ซื้องานวรรณกรรมแปล (เป็นภาษาอังกฤษ) จากนักเขียนเก๋าๆ ที่ชาวโปรตุเกสภูมิใจติดมือกลับบ้านไป ซึ่งอาจจะติดไปไกลคนละประเทศหรือคนละทวีปเลยก็ได้ เป็นการสร้างค่านิยมใหม่ให้หนังสือกลายเป็น ‘ของที่ระลึก’ เพื่อระลึกถึงความทรงจำในการเดินทาง หรือกลายเป็น ‘ของฝาก’ ชิ้นเยี่ยมกลับไปฝากคนทางบ้าน ซึ่งพออ่านแล้วก็อาจจะอยากมาเที่ยวโปรตุเกสบ้าง หรือกลายเป็นแฟนคลับนักเขียนโปรตุเกสไปเลยก็ได้ สองวงการนี้จึงส่งเสริมกันและกันได้อย่างดี
โปรเจ็กต์นี้ได้รับการคิดค้นและดูแลภาพลักษณ์โดยทีมดีไซเนอร์ชาวโปรตุเกสจาก MSTF partners เปิดตัวควบคู่กับเว็บไซต์ www.tellastory.pt นอกจากนี้ ยังมีสินค้าจากแบรนด์ Tell a Story อื่นๆ อีก เช่น กระเป๋า เสื้อ และเครื่องเขียน
“Tell a story เป็นร้านหนังสือที่ขายชิ้นงานวรรณกรรมแปลจากภาษาโปรตุเกส เพื่อให้งานวรรณกรรมนั้นฟุ้งเฟื่องเป็นดั่ง ‘โปสการ์ด’ ทางวัฒนธรรม เพราะเราเชื่อว่าไม่มีวิธีใดที่จะทำให้ระลึกถึงการเดินทางได้ดีกว่าหนังสืออีกแล้ว และการอ่านนั้นแหละที่ทำให้เราได้ออกเดินทาง…ประเทศเรามีเรื่องเล่าและนักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม เราจึงอยากกระตุ้นให้ผู้มาเยือนได้ ‘เล่าเรื่อง’ (Tell a story) เกี่ยวกับโปรตุเกส” ทีมดีไซเนอร์กล่าว
อ้างอิง: designboom