ทุกวันที่ 22 เมษายน ถือเป็นวัน Earth Day หรือวันคุ้มครองโลก ซึ่งกำเนิดขึ้นในอเมริกาเมื่อปีพ.ศ. 2513 หรือ 42 ปีมาแล้ว เพื่อให้ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาและเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม แต่จากสภาวะของโลกทุกวันนี้ที่ดูจะสาหัสขึ้นเรื่อยๆ เราน่าจะกำหนดให้ ‘ทุกวัน’ เป็น Earth Day ไปเลยจะดีกว่า
แม้ทั่วโลกจะพากันจัดกิจกรรมต่างๆ หรือมีโครงการสำเร็จรูปมากมายให้ร่วม กระทั่งมีผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาให้ซื้อมาใช้จะได้อินเทรนด์กับการสร้างโลกสีเขียว แต่เราอาจจะลืมจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนไปแล้ว แค่เพียงเราใช้ชีวิตประจำวันที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวให้น้อยที่สุดหรือไม่กระทบเลย นั่นก็ถือว่าได้มีส่วนร่วมรักษ์โลกแล้ว…
เรามีตัวอย่างไอเดียแจ๋วๆ จาก Inhabitat ที่สามารถนำมาทำหรือปรับใช้กับตัวเราได้ง่ายๆ เช่น การปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายน้อยมาก แต่สร้างประโยชน์มากมายและจะอยู่คู่กับโลกไปอีกนาน เพราะต้นไม้ 1 ต้นสามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ให้คน 2 คนได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว เมื่อเราปลูกต้นไม้ใกล้ตัวบ้านเพื่อช่วยเพิ่มร่มเงา เราก็สามารถลดการใช้เครื่องปรับอากาศในบ้านได้อีกทาง หรือ ตรวจสอบการใช้พลังงาน ของที่อยู่อาศัยให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะ 40 เปอร์เซ็นต์ของสารคาร์บอนที่เป็นพิษต่อโลกเกิดจากวัสดุที่ประกอบกันเป็นที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ หรือวัสดุในการก่อสร้างอาคาร หากเราศึกษาวิธีการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในบ้านจากผู้รู้ เราก็จะช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง อีกวิธีที่น่าสนใจคือ การบริจาคเสื้อผ้า ไม่ใช้แล้วแก่คนยากไร้ เนื่องจากพลังงานที่ใช้ในการผลิตเสื้อผ้าใหม่ ทั้งสารเคมีและวัสดุอื่นๆ ไม่ได้ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังสร้างผลกระทบแก่โลกอีกไม่น้อย ไม่ต้องรอให้ถึงวันปีใหม่หรือหน้าหนาว เราก็สามารถบริจาคได้ แทนที่จะนำไปทิ้งสร้างขยะเพิ่มขึ้น เราแบ่งปันให้กันดีกว่า ส่วนคนชอบเที่ยวก็มี การเดินทางแบบเขียวๆ ไม่ใช่ใส่ชุดเขียวแต่เป็นการหันมาขี่จักรยาน เมื่อเราไปจ่ายตลาดใกล้บ้าน หรือเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้จักรยาน นอกจากจะได้สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดแล้ว ยังช่วยลดมลพิษได้ในเวลาเดียวกันด้วย
นอกจากนี้ เราสามารถ เขียนจดหมาย ถึงรัฐบาลเพื่อให้เขาตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เรามีประชากรกว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศ แค่เราเขียนคนละหนึ่งฉบับก็ช่วยสร้างความตระหนักได้มากมายแล้ว หรือจะช่วย เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน เพื่อให้ชุมชนร่มรื่นและน่าอยู่ยิ่งขึ้น แถมยังทำให้สิ่งแวดล้อมในชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืนด้วย ไม่ก็ เป็นอาสาสมัคร เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ อย่างการปลูกป่า เก็บขยะริมคลอง ทำความสะอาดถนน หรืออื่นๆ ก็ช่วยให้เรารู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมได้ ใครชอบดูหนังเราก็มี หนังรักษ์โลก น่ารักๆ อย่าง Dr.Seuss’ The Lorax มาให้ดูคลายเคลียดหรือจะหาหนังรักษ์โลกเรื่องอื่นๆ มาดูเพื่อสร้างแรงบันดาลใจได้อีกทาง หรือจะเป็น มังสวิรัติ งดทานเนื้อสัตว์สักวันก็ช่วยลดโลกร้อนได้ เพราะแต่ละขั้นตอนที่สัตว์เหล่านั้นจะมาถึงผู้บริโภคต้องใช้พลังงานหนักหนาสาหัสเหมือนกัน แถมการทานมังสวิรัติยังช่วยล้างพิษและทำให้สุขภาพดีอีกด้วย ปิดท้ายด้วย ปาร์ตี้สีเขียว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ชวนกันทำอาหารจานผักหรือเมนูมังสวิรัติ น้ำผักผลไม้หรือสมุนไพร สนุก อร่อย และสุขภาพดีด้วย
ใครมีวิธีใช้ชีวิตประจำวันที่อ่อนโยนต่อโลกและช่วยโลกได้อย่างยั่งยืน เราอยากจะสนับสนุนให้แบ่งปันแก่คนใกล้ตัวและคนอื่นๆ ต่อไป และหวังจะให้ทุกวันเป็นวันคุ้มครองโลกของทุกคน โลกใบนี้จะได้สมบูรณ์งดงามต่อไปถึงรุ่นหลังๆ
อ้างอิง: Inhabitat
