อ้าวเฮ้ย! ป้ายโฆษณาหายไปไหนหว่า? บริโภคศิลปะดีกว่ากันเยอะ
คงจะแปลกพิลึกหากขณะเดินทางไปทำงานวันนี้ แล้วพบว่าบนท้องถนนปราศจากแผ่นปิดป้ายโฆษณา สินค้าแบรนด์ดังต่างๆ แต่กลับแทนที่ด้วยภาพเขียนลิน้ำมันของศิลปินดังระดับโลก
คงจะแปลกพิลึกหากขณะเดินทางไปทำงานวันนี้ แล้วพบว่าบนท้องถนนปราศจากแผ่นปิดป้ายโฆษณา สินค้าแบรนด์ดังต่างๆ แต่กลับแทนที่ด้วยภาพเขียนลิน้ำมันของศิลปินดังระดับโลก
อาจจะสงสัยว่ามันเป็นปั๊มของค่ายน้ำมันเจ้าไหนที่เปิดช่องให้เจ้าของตกแต่งอาคารได้สุดแสบสีสันแบบนี้ ก็คงต้องบอกกันว่าไม่ใช่ปั๊มของเจ้ายุทธจักรธุรกิจน้ำมันชื่อดังใดๆ แต่เป็นปั๊มน้ำมันร้าง
อาจคุ้นเคยกับภาพซากปรักในอดีตที่เกิดขึ้นในหลายแหล่งวัฒนธรรมโบราณ มันตายไปท่ามกลางการปล่อยให้รกร้างเพื่อรอวันที่จะมีใครสักคนขุดคุ้ยหาความหมาย แต่สำหรับที่นี่มันไม่ได้
จะเป็นยังไงนะ ถ้าบังเอิญเดินไปพบสวนขนาดจิ๋วที่จัดไว้อย่างมีสไตล์อยู่บนหลุมถนนหรือทางเท้า ก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่านี่มันเเป็นผลงานของใครสักคน…ช่างมีอารมณ์ขันน่าสนใจเหลือเกิน
การให้ศิลปะเข้ามาแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของชุมชนเมืองที่เร่งรีบ และยิ่งในประเทศที่กำลังพัฒนาแบบบ้านเราด้วยแล้ว ประเด็นเหล่านี้ดูจะต้องห้ามที่จะพูดถึงเสียด้วยซ้ำ เพราะมักจะถูก
เวลาเดินอยู่ตามท้องถนนเมืองไทย เมื่อได้เห็นตู้โทรศัพท์สาธารณะมากมายที่ถูกทิ้งจนรกร้างแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าน่าจะนำไปประยุกต์ทำอะไรที่ดีกว่าได้ เพราะหลายๆ ตู้ก็ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก
คงไม่แปลกอะไรที่เราจะสามารถพบเห็นอาร์ตแกลเลอรี่หรือพิพิธภัณฑ์ชื่อดังหลายต่อหลายแห่งในมหานครนิวยอร์ค และท่ามกลางตึกระฟ้าเหล่านั้น ภายในตรอกเล็กๆ ชื่อ Cortlandt
‘หาบเร่ แผงลอย’ (รวมไปถึงรถเข็น) เปรียบเสมือนเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองไทย เรียกได้ว่าเป็นจุดขายที่ชาวต่างชาติทั่วโลกมักพูดถึง เพราะของที่ขายนั้นมีแทบจะทุกอย่างที่เราต้องการ
พื้นที่สำหรับศิลปะให้กับเมืองแห่งแรกจากโครงการ BMW Guggenheim Lab จากความร่วมมือของ Solomon R. Guggenhiem ร่วมกับ BMW เริ่มต้นที่เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ออกแบบโดย
คุณอาจเบื่อกับ บิลบอร์ดลงทุนมหาศาล หันไปทางไหนก็มีแต่ขายของ คุณอาจเหนื่อยกับการขับรถในช่วงเลือกตั้ง จะเฉี่ยวกี่รอบแล้วไม่รู้ ใครมาวางป้ายหาเสียงขวางผิดที่? แต่งานนี้ คุณไม่เหนื่อยไม่เบื่อแน่